แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยบรรยายฟ้องใจความว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินจำเลยไม่ใช่ทายาทไม่มีสิทธิรับมรดกแต่แม้จะฟังว่าจำเลยเป็นทายาทโจทก์ก็ได้ครอบครองเป็นเจ้าของเกิน 10 ปีแล้วฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นการแสดงสิทธิโดยอ้างเหตุ 2 ประการซึ่งจำเลยเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้ดี ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรนายเงี๊ยบ ๆ ตายเมื่อ พ.ศ. 2473 โจทก์ได้ปกครองที่นาโฉนดที่ 3094 ตำบลปากแรด อำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรีเป็นเวลา 22 ปีแล้ว โจทก์จะขอรับมรดกที่หอทะเบียนที่ดิน จำเลยคัดค้านว่าจำเลยเป็นบุตรนางหลงจึงเป็นหลานเจ้ามรดกซึ่งไม่เป็นความจริง แต่แม้จะฟังว่าเป็นความจริง โจทก์ก็ได้กรรมการทางครอบครองแล้ว จึงขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมรับมรดกที่ดินดังกล่าวแต่ผู้เดียว ฯลฯ
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นบุตรนางหลง นางหลงเป็นบุตรนายเงี๊ยบจำเลยครอบครองที่พิพาทตลอดมาจนบัดนี้ และตัดฟ้องว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนชื่อนายเงี๊ยบออกจากโฉนดใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้รับมรดก ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาพิเคราะห์ข้อกฎหมายที่ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเอาเปรียบจำเลยโดยกล่าวเป็น 2 นัยว่าจำเลยไม่ใช่ทายาทโดยธรรมของนายเงี๊ยบประการหนึ่ง และว่าแม้เป็นทายาทจริงโจทก์ก็ได้ครอบครองที่พิพาทมาฝ่ายเดียวจำเลยขาดสิทธิในที่พิพาทโดยอำนาจปรปักษ์ของโจทก์อีกประการหนึ่ง นั้น เห็นว่าฟ้องโจทก์เป็นการแสดงสิทธิของโจทก์โดยอ้างเหตุสองประการ ซึ่งจำเลยก็เข้าใจและสามารถให้การต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ส่วนข้อเท็จจริง ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยเป็นหลานอันแท้จริงของนายเงี๊ยบ และได้ปกครองที่พิพาทตลอดมาจึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์