แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายแกล้งกล่าวหาว่า จำเลยกับพวกปล้นบ้าน แล้วยังถือปืนเที่ยวตามจับจนถึงเกิดแย่งปืนกัน และผู้ตายยังยกปากกระบอกปืนมาทางจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาผู้ตาย ดังนี้ เป็นการกระทำโดยป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกับนายเทียม จำเลยในคดีดำ ๑๐๐๙/๒๔๘๙ ฆ่านายภู ขุนดินพิทักษ์ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ นายมีจำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ ศาลชั้นต้นพิจารณารวมกันแล้วพิพากษาว่านายมีจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ จำคุก ๒๐ ปี ลดฐานปราณีตามมาตรา ๕๙ คงจำคุก ๑๕ ปี ส่วนนายเทียมยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่านายมีจำเลยได้ใช้มีดแทงเพื่อป้องกันตามมาตรา ๕๐ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ปล่อยตัวนายมีจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่นายภูแกล้งกล่าวหาว่า นายมีจำเลยกับพวกปล้นบ้าน แล้วยังถือปืนเที่ยวตามจับจนถึงเกิดแย่งปืนกัน และนายภูยกปากกระบอกปืนมาทางจำเลยอีก จำเลยจึงได้แทงนายภู ดังนี้ เป็นการกระทำโดยป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา ๕๐
พิพากษายืน.