คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5259/2537

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นการวางตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 เพื่อจะใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อสู้คดีกับโจทก์ต่อไปเท่านั้น โจทก์จะขอให้สั่งคืนค่าธรรมเนียมให้โจทก์ไม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยยืมโจทก์ไปพร้อมดอกเบี้ยและขอบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ20,000 บาท จำเลยอุทธรณ์ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1
โจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยต้องใช้แทนโจทก์ซึ่งจำเลยได้วางศาลไว้พร้อมอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยวางเงินดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ มิได้วางเพื่อชำระให้โจทก์โจทก์ยังไม่มีสิทธิขอรับไป
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งคืนเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยวางศาลแก่โจทก์ เพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นจำนวนสูง โจทก์จะได้นำมาใช้หมุนเวียนเพื่อการค้าขายต่อไปนั้นเห็นว่าที่จำเลยวางเงินจำนวนดังกล่าวมิได้เป็นการวางเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์รับไปในชั้นนี้ เพราะจำเลยยังติดใจต่อสู้คดี แต่การวางเงินของจำเลยเป็นการวางตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 เพื่อจะใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อสู้คดีกับโจทก์ต่อไปเท่านั้นศาลล่างทั้งสองไม่สั่งคืนค่าธรรมเนียมให้โจทก์ในชั้นนี้ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share