แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้น (ศาลแขวง) พิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์โดยอ้างว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงโจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ และศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2518 ภายหลังที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 ใช้บังคับแล้วดังนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ วรรคท้าย ซึ่ง เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 5 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯมาตรา 4 โจทก์ฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อไปไม่ได้
ย่อยาว
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน
โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยแจ้งความอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยไม่มีเจตนาที่จะแจ้งความเท็จ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ โดยอ้างว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น (ศาลแขวงพระนครใต้) พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์โดยอ้างว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟัง เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2518 ภายหลังที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 ใช้บังคับแล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ วรรคท้าย ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 5ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 โจทก์จึงฎีกาคัดค้านคำสั่งดังกล่าวของศาลอุทธรณ์ต่อมาอีกไม่ได้
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์