คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ไม่ปรากฏว่า อ.เป็นกรรมการของจำเลย หรือ อ.ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทจำเลยให้ทำสัญญาจ้างจัดทำงานระบบไฟฟ้าและสื่อเอกสารฉบับพิพาทกับโจทก์ก็ตาม แต่สถานที่ตั้งของจำเลยก็เป็นอาคารเดียวกันกับที่โจทก์ดำเนินการจัดทำและติดตั้งระบบไฟฟ้าและสื่อสาร ทั้งจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คซึ่งประทับตราของจำเลยให้ไว้แก่โจทก์ด้วย การที่จำเลยยอมรับงานที่โจทก์ดำเนินการตามสัญญาจ้างโดยสั่งจ่ายเช็คชำระเงินให้แก่โจทก์และเมื่อเช็คดังกล่าวไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้จำเลยจึงเสนอให้โจทก์รับชำระหนี้ด้วยบ้านและที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกรรมการของจำเลยถือได้ว่าเป็นการยอมรับและให้สัตยาบันแก่การนั้น ย่อมผูกพันจำเลยในฐานะตัวการซึ่งได้ว่าจ้างโจทก์ตามสัญญาจ้างแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 1,224,190.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า นายบรรจง คลังมี ไม่ใช่กรรมการของโจทก์และตราประทับของโจทก์ไม่ตรงกับที่ให้ไว้ต่อกระทรวงพาณิชย์ จำเลยไม่เคยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้จัดทำและติดตั้งระบบไฟฟ้าและสื่อสาร แต่จำเลยได้ทำสัญญาว่าจ้างให้บริษัทอิมเพรสโฮม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการงานดังกล่าว สัญญาจ้างจัดทำระบบไฟฟ้าและสื่อสารเป็นสัญญาระหว่างบริษัทอิมเพรสโฮม จำกัด มีนายอภิชาติ ศรีอมรธรรม เป็นผู้ลงนามกับโจทก์ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลยและนายอภิชาติ ไม่ใช่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยหรือตัวแทนของจำเลย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 1,224,190.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง (วันที่ 12 มิถุนายน 2541) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 40,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า ตามสัญญาจ้างจัดทำงานระบบไฟฟ้าและสื่อสาร ระบุว่า “ทำที่บริษัทดิอิมเพรส แมนชั่น จำกัด” และสัญญาทำขึ้นระหว่าง “บริษัทดิอิมเพรส แมนชั่น จำกัด โดยนายอภิชาติ ศรีอมรธรรม… กับบริษัทเนติพร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด…” โดยสัญญาข้อ 1 ว่าจ้างให้จัดทำและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและสื่อสารทั้งภายในและภายนอกอาคารบริษัทดิอิมเพรส แมนชั่น จำกัด ซอยธรากร 4 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร จำนวน 9 ชั้น 1 หลัง ตอนท้ายของสัญญาลงลายมือชื่อนายอภิชาติ ศรีอมรธรรม บริษัทอิมเพรสโฮม จำกัด แม้จะไม่ปรากฏว่านายอภิชาติเป็นกรรมการของจำเลยตามหนังสือรับรอง หรือได้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ทำสัญญาจ้างดังกล่าวก็ตาม แต่สถานที่ตั้งของจำเลยก็เป็นอาคารเดียวกันกับที่โจทก์ดำเนินการจัดทำและติดตั้งระบบไฟฟ้าและสื่อสาร คือ ซอยธนากร 4 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ทั้งจำเลยได้สั่งจ่ายเช็ค ซึ่งประทับตราของจำเลยให้ไว้แก่โจทก์ด้วย นอกจากนั้น ในบันทึกข้อตกลง ยังระบุว่าจำเลยขอชำระหนี้เป็นบ้านและที่ดินมีรายละเอียดว่า “บริษัทดิอิมเพรส แมนชั่น จำกัด โดยนางสาวพวงผกา วังประเสริฐ” ในตอนท้ายระบุว่า “นางสาวพวงผกา วังประเสริฐ บริษัทดิอิมเพรส แมนชั่น จำกัด … ลูกหนี้ และ… นางสาวพวงผกา วังประเสริฐ บริษัทอิมเพรสโฮม จำกัด ลูกหนี้ผู้รับโอนสิทธิ” ซึ่งจำเลยไม่ได้นำสืบโต้แย้งเอกสารดังกล่าวไว้แต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยยอมรับงานที่โจทก์ดำเนินการตามสัญญาจ้างโดยสั่งจ่ายเช็คชำระเงินให้แก่โจทก์และเมื่อเช็คดังกล่าวไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จำเลยจึงเสนอให้โจทก์รับชำระหนี้ด้วยบ้านและที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกรรมการของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการยอมรับและให้สัตยาบันแก่การนั้น ย่อมผูกพันจำเลยในฐานะตัวการซึ่งได้ว่าจ้างโจทก์ตามสัญญาจ้างแล้ว เมื่อโจทก์ได้ดำเนินการตามสัญญาจ้างดังกล่าวจนแล้วเสร็จและจำเลยรับไว้ใช้ในกิจการของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์ตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท

Share