คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จะนำยึดที่ดินของผู้อื่นซึ่งมิใช่ของจำเลยผู้แพ้คดีแม้ว่าผู้นั้นจะมีเพียงสิทธิครอบครอง ก็ยึดไม่ได้บุคคลภายนอกที่จะอ้าง ม.1299 มายันผู้ได้สิทธิในที่ดินได้นั้น จะต้องเป็นผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทน และได้มาดดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธินั้นแล้วประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.248
คดีแพ่งทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับศาลเดิม แม้ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาคู่ความก็ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ชนะความจำเลย โจทก์จึงนำยึดที่ส่วนรายพิพาท ผู้ร้อง ๆ ว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้อง หาใช่ของจำเลยไม่
ทางพิจารณาได้ความว่า ที่สวนรายนี้เดิมเป็นของบิดาผู้ร้อง แล้วยกให้ผู้รอ้งแต่มิได้ไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน ผู้ร้องได้ครอบครองมา ๗-๘ ปีแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าผู้ร้องครองครองมายังไม่ครบ ๑๐ ปี จึงหาได้กรรมสิทธิไม่ให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้การยกให้จะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานผู้ร้องก็ยังมีสิทธิครอบครองดีกว่าผู้อื่นซึ่งมิได้ครอบครองตาม ม.๑๓๖๗ เมื่อที่ส่วนรายนี้มิใช่ของจำเลย แลจำเลยไม่มีสิทธิดีกว่าผู้ร้องแล้ว โจทก์ก็ไม่มีอำนาจยึด เพราะโจทก์จะมีอำนาจยึดได้ก็แต่ทรัพย์ของจำเลย
ส่วนข้อที่โจทก์อ้างประมวลแพ่ง ฯ ม.๑๒๙๙ ว่าผู้ร้องจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้นั้น เห็นว่าตามมาตรานี้ห้ามมิให้ต่อสู้บุคคลภายนอก แต่ฉะเพาะกรณีที่บุคคลภายนอกได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธินั้นแล้วแต่คดีนี้โจทก์หาได้ตกอยู่ในฐานะเช่นที่กล่าวนั้นไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ถอนการยึด

Share