แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 บัญญัติว่า “ถ้าคำพิพากษาหรือคำสั่งใดกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติห้ามาตราต่อไปนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจที่จะรวบรวมเงินเพื่อให้พอชำระตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธียึดหรืออายัดและขายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามบทบัญญัติในลักษณะนี้ คือ
(1) โดยวิธียึดและขายทอดตลาดสังหาริมทรัพย์อันมีรูปร่างและอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ”
หมายความว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ทุกประเภททั้งสังหาริมทรัพย์ที่มีรูปร่างและอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเจ้ามรดกซึ่งเป็นบิดาของจำเลยได้ถึงแก่กรรมลงโดยไม่ปรากฏว่ามีการทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายอันเป็นกองมรดกย่อมตกทอดแก่ทางทายาทโดยธรรมทันที ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 และมาตรา 1600 ดังนั้นจำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตาย จึงมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแม้จะยังไม่มีชื่อจำเลยเป็นของกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนที่ดินก็ตาม โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเพื่อบังคับตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลางได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 73,875 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินต่าง ๆ ของจำเลยภายในบ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 3 แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม 2542 โจทก์ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยเพิ่มเติม โดยขอให้ยึดที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 2318 พร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์มรดกของบิดาจำเลยซึ่งถึงแก่กรรมและตกเป็นมรดกแก่จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมคนหนึ่ง เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งว่า ที่ดินที่จะนำยึดไม่ใช่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อาจดำเนินการให้ได้ ยกคำร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี และมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์สินดังกล่าวของจำเลยเพิ่มเติมให้แก่โจทก์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า ทรัพย์ที่โจทก์ขอยึดเป็นที่ดินมีชื่อของบุคคลอื่นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ตามคำร้องของโจทก์ จำเลยมีสิทธิได้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม จึงเป็นเพียงสิทธิที่จำเลยจะได้รับเท่านั้น ที่ดินดังกล่าวยังมิได้มีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โจทก์จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดย่อมไม่สามารถกระทำได้ เพราะการยึดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 (1) ทรัพย์นั้นจะต้องเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา คำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ไม่ยึดที่ดินตามคำร้องของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลแรงงานกลาง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์มิได้ยื่นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง จึงไม่รับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของศาลแรงงานกลางต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำสั่งของศาลแรงงานกลาง แล้วให้ศาลแรงงานกลางดำเนินการไต่สวนและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
ศาลแรงงานกลางไต่สวนพยานโจทก์แล้วมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์ได้ยื่นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง ให้รับอุทธรณ์ของโจทก์
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 บัญญัติว่า “ถ้าคำพิพากษาหรือคำสั่งใดกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่ง ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติห้ามาตราต่อไปนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจที่จะรวบรวมเงินให้พอชำระตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธียึดหรืออายัดและขายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามบทบัญญัติในลักษณะนี้ คือ
(1) โดยวิธียึดและขายทอดตลาดสังหาริมทรัพย์อันมีรูปร่าง และอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ”
หมายความว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ทุกประเภททั้งสังหาริมทรัพย์ที่มีรูปร่างและอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเจ้ามรดกซึ่งเป็นบิดาของจำเลยได้ถึงแก่กรรมลง โดยไม่ปรากฏว่ามีการทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายอันเป็นกองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทันที ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 และมาตรา 1600 ดังนั้นจำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายจึงมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 2318 พร้อมสิ่งปลูกสร้างแม้จะยังไม่มีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนที่ดินก็ตาม โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีและศาลแรงงานกลางมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 2318 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อดำเนินการบังคับคดีต่อไป.