คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5195/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำให้การจำเลยที่ระบุว่าคำฟ้องโจทก์เป็นคำฟ้องเรียกร้องเอาค่าขายบ้านจัดสรรซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยค้างชำระ เป็นการเรียกร้องเอาค่าจ้างทำของต้องใช้สิทธิภายใน 2 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 โจทก์บรรยายคำฟ้องว่าสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้จ้างทำของเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี 8 เดือนที่ผ่านมา คดีโจทก์ขาดอายุความแม้จะไม่ได้ระบุเลขอนุมาตราใดก็เป็นคำให้การต่อสู้ว่าคดีโจทก์ทั้งสองขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 ศาลชอบที่จะนำบทบัญญัติมาตราดังกล่าวมาปรับแก่คดีได้
ค่าขายบ้านที่โจทก์เรียกร้องจากจำเลยเป็นสินจ้างเพื่องานที่ทำตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(8) มิใช่เป็นค่าตอบแทนที่ไม่มีบทกฎหมายเกี่ยวกับอายุความกำหนดแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าขายบ้านจัดสรรแก่โจทก์ทั้งสองจำนวน 902,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 656,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสองให้การว่า การที่โจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกเอาค่าขายบ้านจัดสรรเป็นการเรียกร้องเอาค่าจ้างทำของ ซึ่งจะต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายใน 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 โจทก์ทั้งสองบรรยายฟ้องเรียกค่าจ้างทำของที่เกิดขึ้นนับแต่วันที่ 4 มกราคม 2533 คิดถึงวันฟ้องเป็นเวลา 5 ปี 8 เดือน ฟ้องโจทก์ทั้งสองจึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ทั้งสองขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ทั้งสองฎีกาว่า บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(8) บังคับใช้กรณีลูกจ้างซึ่งทำงานรับเงินเดือนหรือผลประโยชน์ประจำอยู่แล้ว เรียกร้องสินจ้างอย่างอื่นเพื่อการงานที่ได้กระทำนอกเหนือจากงานประจำที่ทำและรับจ้างเป็นประจำอยู่แล้วเท่านั้น กรณีของโจทก์ทั้งสองขณะที่เป็นพนักงานฝ่ายขายไม่ได้รับเงินเดือน แต่รับเฉพาะผลประโยชน์จากการขายที่ดินและบ้านจัดสรรให้จำเลยทั้งสอง หากขายไม่ได้ก็ไม่มีรายได้ กรณีจึงเห็นได้ชัดว่าผลประโยชน์ตามฟ้องโจทก์ หาใช่สินจ้างอย่างอื่นเพื่อการงานที่ทำไม่ แต่เป็นค่าตอบแทนซึ่งไม่มีบทกฎหมายเกี่ยวกับอายุความกำหนดไว้ ต้องใช้อายุความทั่วไปคือ 10 ปี และแม้จำเลยทั้งสองจะอ้างบทบัญญัติของกฎหมายมาตรา 193/34 ในคำให้การแต่ไม่อ้างโดยตรง ศาลจะนำอายุความที่จำเลยมิได้ต่อสู้โดยตรงมาวินิจฉัยไม่ได้นั้น เห็นว่า คำให้การจำเลยที่ระบุว่าคำฟ้องโจทก์เป็นคำฟ้องเรียกร้องเอาค่าขายบ้านจัดสรร ซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยค้างชำระเป็นการเรียกร้องเอาค่าจ้างทำของ ต้องใช้สิทธิภายใน 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 โจทก์บรรยายคำฟ้องว่าสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้จ้างทำของเกิดขึ้นวันที่ 4 มกราคม 2533 เมื่อ 5 ปี 8 เดือนที่ผ่านมา คดีโจทก์ขาดอายุความนั้น แม้จะไม่ได้ระบุเลขอนุมาตรามาด้วยก็เป็นคำให้การต่อสู้ว่าคดีโจทก์ทั้งสองขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 โดยตรง ศาลล่างทั้งสองนำบทบัญญัติมาตราดังกล่าวมาปรับคดีจึงชอบแล้ว เพราะเป็นบทบัญญัติที่จำเลยทั้งสองยกต่อสู้ไว้ ที่โจทก์ทั้งสองฎีกาว่าผลประโยชน์ตามคำฟ้องที่เรียกร้องไม่ใช่สินจ้างอย่างอื่นเพื่องานที่ทำ แต่เป็นค่าตอบแทนที่ไม่มีบทกฎหมายเกี่ยวกับอายุความกำหนดไว้นั้น เห็นว่าตามคำฟ้องโจทก์ทั้งสองเรียกร้องเอาค่าขายบ้านจัดสรรที่จำเลยค้างชำระ ค่าขายบ้านที่โจทก์ทั้งสองเรียกร้องจากจำเลยจึงเป็นสินจ้างเพื่องานที่ทำคือการขายบ้านของโจทก์ทั้งสอง ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(8)หาใช่เป็นค่าตอบแทนที่ไม่มีบทกฎหมายเกี่ยวกับอายุความกำหนดตามที่โจทก์ทั้งสองฎีกาแต่อย่างใด ฎีกาโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share