คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5186/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง กำหนดให้คู่ความฝ่ายที่เสียหายยกข้อค้านเรื่องผิดระเบียบขึ้นกล่าวได้ไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนมีคำพิพากษา แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่ได้รับทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเกิดมูลแห่งข้ออ้างนั้นซึ่งระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าวนี้ใช้บังคับแก่การยื่นคำร้องขอเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบทุกกรณีไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างพิจารณาหรือหลังจากศาลพิพากษา หาใช่ว่าใช้บังคับเฉพาะกรณีขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบช่วงก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไม่ ดังนั้น คำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีที่สั่งโดยผิดระเบียบ โดยอ้างว่าทนายโจทก์ได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมาขอเลื่อนคดีต่อศาลโดยให้เหตุผลว่าป่วยถือว่าโจทก์มาศาลและแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแล้ว ไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดีเพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลนั้น จึงอยู่ในบังคับระยะเวลาแปดวันที่จะต้องปฏิบัติตาม เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวล่วงเลยระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดโจทก์ย่อมหมดสิทธิคัดค้านกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 177,510 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 170,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ในวันนัดพร้อมและสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีศาลชั้นต้นอนุญาต นัดต่อมาวันที่ 20 เมษายน 2547 ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีกครั้งโดยอ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ มีอาการไอและเจ็บคอ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วไม่เชื่อว่าทนายโจทก์ป่วยจนถึงขนาดไม่สามารถมาศาลได้ และคำร้องก็มิได้ระบุว่าหากศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วจะทำให้เสียความยุติธรรมอย่างไร เมื่อทนายโจทก์ไม่มาศาล ถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
วันที่ 6 พฤษภาคม 2547 โจทก์ยื่นคำร้องว่า การที่ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมาขอเลื่อนคดีต่อศาลโดยให้เหตุผลว่าป่วย ถือว่าโจทก์มาศาลและแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแล้ว ที่ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลจึงไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบและนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำร้องของโจทก์ที่ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นโดยอ้างว่าเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบจะต้องยื่นเวลาภายในเวลา 8 วัน นับแต่วันที่โจทก์ได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่ง เมื่อมีการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นพิจารณาได้เอง หรือคู่ความฝ่ายที่เสียหายมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนได้ ส่วนระยะเวลาในการยื่นคำร้องมาตรา 27 วรรคสอง กำหนดให้คู่ความฝ่ายที่เสียหายต้องยื่นไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเกิดมูลแห่งข้ออ้างนั้น ซึ่งระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าวนี้ใช้บังคับแก่การยื่นคำร้องให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบทุกกรณีไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างพิจารณาหรือหลังจากศาลพิพากษา หาใช่ว่าใช้บังคับเฉพาะกรณีขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบช่วงก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไม่ ดังนั้น คำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีที่สั่งโดยผิดระเบียบ โดยอ้างว่าการที่ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมาขอเลื่อนคดีต่อศาลโดยให้เหตุผลว่าป่วย ถือว่าโจทก์มาศาลและแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแล้ว ไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดีเพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลนั้น จึงอยู่ในบังคับแห่งระยะเวลาแปดวันที่จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อโจทก์ทราบข้อเท็จจริงอันเป็นมูลแห่งข้ออ้างว่ากระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2547 แต่โจทก์เพิ่งยื่นคำร้องดังกล่าววันที่ 6 พฤษภาคม 2547 จึงล่วงเลยเวลาที่กฎหมายกำหนด โจทก์ย่อมหมดสิทธิคัดค้านกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share