แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดที่จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ชำระบัญชีและให้สั่งเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดโดยขอให้ตั้งโจทก์เป็นผู้ชำระบัญชี เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนและให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดตามคำขอของโจทก์แล้ว จึงเป็นกรณีผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกันโดยไม่มีผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1251 วรรคสอง ซึ่งศาลย่อมมีอำนาจตั้งผู้ชำระบัญชีได้ และตามบทบัญญัติดังกล่าวหาได้บัญญัติบังคับศาลให้ต้องตั้งโจทก์เป็นผู้ชำระบัญชีตามคำขอของโจทก์เท่านั้น ศาลจึงมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลอื่นที่เห็นว่าเป็นคนกลางได้ ไม่เป็นการมีคำพิพากษา หรือคำสั่งเกินคำขอของโจทก์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เมื่อการเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดมิได้เกิดจากผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งล้มละลายอันจะเป็นเหตุให้สมควรตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้ชำระบัญชี จึงเห็นสมควรตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งสมัครใจให้เป็นผู้ชำระบัญชีแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2545 จำเลยได้จดทะเบียนเลิกห้างต่อนายทะเบียนสำนักงานหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดร้อยเอ็ดโดยอ้างว่าโจทก์ให้ความยินยอมซึ่งเป็นความเท็จ การจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากที่จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนแล้ว จำเลยในฐานะผู้ชำระบัญชีได้นำทรัพย์สินของห้างฯ คือรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไปขายให้แก่ผู้อื่นและนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ผู้ชำระบัญชีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยมีเจตนาส่อไปในทางทุจริตทำให้ทรัพย์สินของห้างฯ ลดน้อยลง ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนได้รับความเสียหาย ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรพัย์ ลงวันที่ 9 เมษายน 2545 กับขอให้ศาลสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรเจริญทรัพย์ และแต่งตั้งโจทก์เป็นผู้ชำระบัญชี
จำเลยให้การว่า ก่อนจดทะเบียนเลิกห้างฯ จำเลยได้แจ้งให้โจทก์ทราบแล้วโจทก์เห็นชอบ ห้างหุ้นส่วนจำกัดเหลือวิสัยดำรงอยู่ได้เพราะประสบปัญหาขาดทุนและปัญหาอื่น การขายทรัพย์สินของห้างฯ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของห้างฯ เนื่องจากต้องนำเงินไปชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนเงินที่เหลือจำเลยนำไปชำระหนี้ของห้างฯ และเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระบัญชีซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์เป็นผู้ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้ชำระบัญชีเพราะไม่เคยประกอบธุรกิจการค้า ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2545 ให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ โดยตั้งให้โจทก์เป็นผู้ชำระบัญชี กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความจำนวน 1,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาโต้แย้งว่า มีเหตุสมควรให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อแรกมีว่าโจทก์สมควรเป็นผู้ชำระบัญชีหรือไม่ เห็นว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ มีผู้เป็นหุ้นส่วนเพียง 2 คน คือ โจทก์ และจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งไม่ประสงค์เป็นผู้ชำระบัญชีร่วมกัน ดังนี้ หากแต่งตั้งโจทก์ให้เป็นผู้ชำระบัญชีก็ย่อมเล็งเห็นได้ว่าจะต้องเกิดปัญหาในการชำระบัญชีและไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองฝ่าย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีดุลพินิจไม่แต่งตั้งโจทก์ให้เป็นผู้ชำระบัญชีจึงชอบด้วยเหตุผลแล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อสุดท้ายมีว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แต่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้ชำระบัญชี เป็นคำสั่งที่เกินคำขอจึงต้องห้ามตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง บัญญัติว่า “ถ้าไม่มีผู้ชำระบัญชีดังว่ามานี้ และเมื่อพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสียในการนี้ร้องขอ ท่านให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชี” ดังนี้ เมื่อโจทก์เป็นผู้มีส่วนได้เสียได้ร้องขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ลงวันที่ 9 เมษายน 2545 และขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์แล้ว จึงเป็นกรณีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ ไม่มีผู้ชำระบัญชีต้องตามบทบัญญัติดังกล่าว ศาลย่อมใช้อำนาจแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีได้ และตามบทบัญญัติที่กล่าวมานี้ หาได้บัญญัติบังคับศาลต้องแต่งตั้งโจทก์เป็นผู้ชำระบัญชีตามคำขอของโจทก์เท่านั้นไม่ ศาลจึงมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลอื่นซึ่งถือได้ว่าเป็นคนกลางเป็นผู้ชำระบัญชีได้ และไม่เป็นการมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกินคำขอต้องห้ามตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์ในคดีนี้ มิได้เกิดจากผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งล้มละลาย อันจะพึงเป็นเหตุผลให้แต่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้ชำระบัญชี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แต่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้ชำระบัญชีนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาและเมื่อเป็นกรณีพิพาทในทางแพ่ง ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด ที่สมัครใจจะเป็นผู้ชำระบัญชีให้เป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้แต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด ที่สมัครใจเป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดพรจันทร์เจริญทรัพย์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาเป็นพับ