คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516-520/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งมีผู้อื่นเช่าอยู่ ย่อมรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งเป็นผู้ให้เช่า การโอนเช่นนี้ไม่เป็นกรณีต้องด้วย ม.306

ย่อยาว

คดี ๕ สำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษาโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องแถวโจทก์เพื่อประกอบการค้า โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วจำเลยไม่ยอมส่งห้องคืนจึงขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้ง ๕ ต่อสู้ว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัย โจทก์จะเป็นเจ้าของห้องแถวรายพิพาทหรือไม่จำเลยไม่รับรอง ถ้าโจทก์ได้รับโอนห้องแถวรายพิพาทมาจริงโจทก์หรือเจ้าของเดิมก็ไม่ได้แจ้งการโอนกรรมสิทธิให้จำเลยทราบ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้ง ๕ สำนวน
จำเลยทุกคนอุทธรณ์โดยผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีรับรอง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงต้องฟังตามศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยเช่าห้องใช้ประกอบการค้าโจท์ได้ซื้อห้องรายพิพาทจากเจ้าของเดิม เจ้าของเดิมได้พาโจทก์ไปให้พวกจำเลยรู้จักแล้ว ข้อ ก.ม.ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าห้องแถวรายพิพาทอยู่ในทำเลการค้าและจำเลยใช้ห้องทำการค้า การที่จำเลยกินอยู่หลับนอนในห้องพิพาทก็เพื่อประโยชน์กิจการค้าของจำเลยจึงไม่เป็นเคหะได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ส่วนข้อที่ว่าโจทก์หรือเจ้าของเดิมไม่ได้แจ้งการโดนที่พิพาทให้จำเลยทราบนั้นเห็นว่าการโอนกรรมสิทธิทรัพย์สินที่ให้เช่านั้นผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอน ผู้รับโอนหาจำต้องแจ้งการโอนไปให้ผู้เช่าทราบแต่อย่างใดไม่ ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share