คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5154/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่าหนี้อื่นตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 30 หมายถึงหนี้อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้าง เช่นหนี้เงินกู้จากนายจ้าง เป็นต้น กรณีหนี้ที่ลูกจ้างต้องรับผิดชดใช้แก่นายจ้างเนื่องจากการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างถือไม่ได้ว่าเป็นหนี้อื่นที่นายจ้างจะนำมาหักจากค่าจ้างมิได้
ลูกจ้างฟ้องเรียกค่าจ้างค้างจ่ายจากนายจ้าง เมื่อปรากฏว่าลูกจ้างลาออกจากงานโดยไม่ส่งสมุดตัวอย่างสินค้าคืนแก่นายจ้างอันเป็นการผิดสัญญาและต้องรับผิดชดใช้เป็นเงินจำนวนเท่ากับราคาของสมุดตัวอย่างดังกล่าวเช่นนี้นายจ้างย่อมมีสิทธิขอหักกลบลบหนี้กับลูกจ้างได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยได้รับค่าจ้างเป็นเงินเดือนและจำเลยยังจ่ายค่านายหน้าในการขายสินค้าให้โจทก์อีกด้วย ต่อมาโจทก์ลาออกจากงานโดยไม่มีความผิด แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ครึ่งเดือนและไม่ยอมจ่ายค่านายหน้าที่โจทก์ขายสินค้าได้คิดเป็นเงินค่านายหน้า ๑,๓๘๒ บาท ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย ๓,๒๕๐ บาท และค่านายหน้าการขายสินค้า ๑,๓๘๒ บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์เป็นลูกจ้างทำหน้าที่ฝ่ายการตลาดระหว่างเวลาที่โจทก์ทำงาน โจทก์เบิกสมุดตัวอย่างสินค้าของจำเลยเพื่อใช้ในการเสนอขายสินค้าซึ่งโจทก์ต้อง่คืนแก่จำเลยเมื่อการขายสิ้นสุดลง และต้องคืนเมื่อโจทก์ลาออก แต่เมื่อโจทก์ลาออกโจทก์ไม่ได้ส่งสมุดตัวอย่างที่เบิกไปจากจำเลย ๓๒ เล่มคิดเป็นเงิน ๙,๕๐๔ บาท จำเลยจึงไม่จ่ายค่าจ้าง และค่านายหน้าแก่โจทก์โดยให้โจทก์นำสมุดตัวอย่างมาคืน แต่โจทก์ไม่นำมาคืนอันเป็นการผิดสัญญาจ้าง โจทก์ต้องรับผิดใช้ราคาสมุดตัวอย่างสินค้าพร้อมด้วยดอกเบี้ย ซึ่งจำเลยขอหักกลบลบหนี้กับค่าจ้างและค่านายหน้าในการขายสินค้าตามฟ้อง คงเหลือเงินที่โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ให้จำเลยเป็นเงิน ๖,๑๓๗.๔๐ บาท ขอให้พิพากษาบังคับให้โจทก์ใช้เงินดังกล่าวแก่จำเลย พร้อมด้วยดอกเบี้ย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า การที่จำเลยยึดหน่วงค่าจ้างโจทก์ไว้เป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ ๓๐ ซึ่งนายจ้างจะเอาหนี้อื่นมาหักค่าจ้างมิได้ ตามสัญญาจ้างและระเบียบการทำงานโจทก์ต้องเบิกสมุดตัวอย่างสินค้าไปเพื่อให้ลูกค้าดู ลูกค้าจะเก็บสมุดไว้เพื่อความสะดวกในการสั่งสินค้าในคราวต่อไป โจทก์ไม่มีหน้าที่ทวงสมุดตัวอย่างสินค้าจากลูกค้า ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโจทก์ผิดสัญญาจ้างที่ลาออกแล้วไม่นำสมุดตัวอย่างสินค้าที่เบิกแก่จำเลยเพื่อให้ลูกค้าดูมาคืน โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ค่าสมุดตัวอย่างสินค้าตามฟ้องแย้งเป็นเงิน ๙,๕๐๔ บาท เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างและค่านายหน้าในการขายสินค้า จำเลยมีสิทธินำหนี้ดังกล่าวมาหักกลบลบหนี้กันได้ เมื่อหักกลบลบหนี้กันแล้ว โจทก์ยังคงต้องรับผิดชดใช้แก่จำเลย ๔,๘๙๒ บาท พิพากษายกฟ้องโจทก์ให้โจทก์ชำระเงิน ๔,๘๙๒ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องแย้ง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัย ปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีมีปัญหาในชั้นนี้ว่าจำเลยมีสิทธิขอหักหนี้ค่าจ้างค้างจ่ายกับโจทก์หรือไม่ โจทก์อุทธรณ์ว่าหนี้เงินค่าจ้างค้างจ่ายนั้น โจทก์จำเลยไม่เคยมีข้อตกลงให้หักหนี้กันได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิหักกลบลบหนี้กับโจทก์ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์และจำเลยต่างก็มีความผูกพันซึ่งกันและกันโดยมูลหนี้อันมีวัตถุเป็นอย่างเดียวกัน จำเลยจึงมีสิทธิฟ้องแย้งขอหักกลบลบหนี้ต่อกันได้ และการที่จำเลยขอหักหนี้จากค่าจ้างค้างจ่าย ซึ่งโจทก์มีสิทธิได้รับจากจำเลยนั้น ก็หาต้องห้ามตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ ๓๐ ที่กำหนดว่า “ในการจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุด นายจ้างจะนำหนี้อื่นมาหักมิได้” แต่อย่างใดไม่ ทั้งนี้เพราะคำว่าหนี้อื่นตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว หมายถึง หนี้อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้าง เช่น หนี้เงินกู้จากนายจ้าง เป็นต้นแต่กรณีนี้เป็นหนี้ที่โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่จำเลยเนื่องจากการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้าง ถือไม่ได้ว่าเป็นหนี้อื่นซึ่งจำเลยจะนำมาหักจากค่าจ้างมิได้จำเลยจึงมีสิทธิหักค่าจ้างของโจทก์เพื่อชดใช้ความเสียหายสำหรับทรัพย์สินที่โจทก์ยังไม่ได้คืนให้แก่จำเลย
พิพากษายืน

Share