คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5135/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้เยาว์ทั้งสองเป็นบุตรของนาย ก. กับนางสาว ส.ซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกัน จึงมิใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนาย ก.ผู้ร้องซึ่งเป็นน้องของบิดาของนายก. จึงมิใช่ญาติของผู้เยาว์ทั้งสองตามความหมายของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1582และมาตรา 1586 ย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ถอนอำนาจปกครองของมารดาผู้เยาว์ทั้งสอง และไม่อาจขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ทั้งสองได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ขอให้ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งถอนนางสำเนียง ทำที่พึ่งมารดาของผู้เยาว์ทั้งสองออกเสียจากการเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง และมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ทั้งสองตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นประกาศคำร้องและกำหนดนัดไต่สวนตามระเบียบแล้วไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้ร้องเป็นญาติโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลถอนอำนาจปกครองและร้องขอตั้งผู้ปกครอง มีคำสั่งยกคำร้องขอของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า เด็กชายเสกสรรค์ มีสัตย์ และเด็กหญิงสุนิสา มีสัตย์ ผู้เยาว์ทั้งสองเป็นบุตรของนายโกศลมีสัตย์ กับนางสาวสำเนียง ทำที่พึ่งซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกันจึงมิใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายโกศลดังนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นน้องของนายแสง มีสัตย์ บิดาของนายโกศลจึงมิใช่ญาติของผู้เยาว์ทั้งสอง ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1582 และมาตรา 1586 ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ถอนอำนาจปกครองของมารดาของผู้เยาว์ทั้งสอง และไม่อาจขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองของผู้เยาว์ทั้งสองได้ที่ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share