คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5128/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยรับขนสินค้าพิพาทจากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย ก่อนเรือเข้าเทียบท่าจำเลยได้ประกาศทางหนังสือพิมพ์กำหนดวันเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบเพื่อจะได้นำใบตราส่งมาแลกใบปล่อยสินค้า ครั้นเรือเข้าเทียบท่า จำเลยทั้งสองได้ขนถ่ายสินค้าดังกล่าวเข้าเก็บในโกดังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ถือว่าจำเลยได้ขนส่งสินค้าถึงท่าเรือปลายทางแล้ว หน้าที่การขนส่งสินค้าของจำเลยจึงสิ้นสุดลง การที่ไฟไหม้โกดังสินค้าและสินค้าดังกล่าวเสียหาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 616

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยสินค้า และได้ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาประกันภัยให้แก่ผู้รับตราส่งแล้วเป็นเงิน204,944.41 บาท จึงรับช่วงสิทธิผู้รับตราส่ง เรียกร้องให้จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ขนส่งชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ต้องรับผิด ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า สินค้าพิพาททั้ง 2 รายการ บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเอ็นยิเนียริ่ง จำกัด กับห้างหุ้นส่วนจำกัด แอ็คติวิตี้อีเล็คตริค ได้สั่งซื้อจากผู้ขายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจำเลยทั้งสองเป็นผู้รับจ้างขนส่งสินค้าดังกล่าวมากับเรือชื่อสิก้า เมอสก์ และขนถ่ายสินค้าลงเรือชื่อ เมอสก์ แรนโดที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อมายังประเทศไทย โดยโจทก์รับประกันภัยสินค้าเครื่องจักรทดสอบดินของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเอ็นยิเนียริ่ง จำกัด เป็นจำนวนเงิน 111,780 บาท รับประกันภัยสินค้ามาตรวัดไฮดรอลิกของห้างหุ้นส่วนจำกัดแอ็คติวิตี้อีเล็คตริค เป็นจำนวนเงิน 93,164.41 บาท เมื่อเรือขนส่งสินค้าเข้าเทียบท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยแล้วได้ขนถ่ายสินค้าทั้ง 2 รายการเข้าเก็บในโกดังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยเรียบร้อย ต่อมาเมื่อผู้สั่งซื้อสินค้าทั้ง 2 รายการไปขอรับสินค้าก็รับไม่ได้เนื่องจากโกดังเก็บสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยถูกไฟไหม้และสินค้า 2 รายการ ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมดโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าเสียหายตามราคาที่ประกันภัยแก่ผู้ซื้อสินค้าทั้ง 2 รายแล้ว และมาฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้ มีประเด็นที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาว่าจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ขนส่งจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ผู้รับประกันภัยสินค้าหรือไม่ เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีหน้าที่ขนส่งสินค้าดังกล่าว และจะต้องขนส่งพร้อมกับมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งโดยเรียบร้อย ซึ่งจะต้องรับผิดในสินค้าที่ขนส่ง หากสูญหายหรือบุบสลาย หรือส่งมอบชักช้าเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการสูญหายหรือบุบสลายหรือชักช้านั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเอง หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 พิเคราะห์ใบตราส่งเอกสารหมาย ล.1 กับ ล.3เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าพิพาทปรากฏว่าได้ระบุสถานที่ส่งสินค้าจากท่าเรือเมืองนิวยอร์ค กับท่าเรือเมืองบัลติมอร์ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุเมืองท่าปลายทางที่ขนสินค้าลงคือท่าเรือกรุงเทพฯ ประเทศไทย และจำเลยทั้งสองได้ขนส่งสินค้าทั้ง 2 รายการถึงการท่าเรือแห่งประเทศไทยพร้อมบัญชีสินค้า ได้แจ้งศุลกากรตามเอกสารหมาย ล.12, ล.13 และ ล.14 มีสินค้าครบถ้วน พร้อมกับส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยและนำสินค้าเข้าเก็บในโกดังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตามเอกสารหมาย จ.18 แล้ว นอกจากนี้ก่อนเรือขนสินค้าดังกล่าวจะเข้าเทียบท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายเดินเรือมอสก์ได้ประกาศทางหนังสือพิมพ์ถึงกำหนดวันเรือเข้า ให้ผู้รับสินค้าทราบเพื่อจะได้นำใบตราส่งมาแลกใบปล่อยสินค้า และผู้รับสินค้าทั้ง 2 รายได้นำใบตราส่งมาแลกใบปล่อยสินค้าไปตั้งแต่วันที่1 กันยายน 2524 และวันที่ 3 กันยายน 2524 ตามลำดับ ตามเอกสารหมาย ล.5 กับ ล.7 ถือว่าจำเลยทั้งสองได้จัดส่งสินค้าดังกล่าวถึงท่าเรือปลายทางและการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้รับมอบสินค้าไว้จากจำเลยทั้งสองครบถ้วนตามระเบียบและการปฏิบัติในการรับสินค้าแล้ว หน้าที่การขนส่งสินค้าของจำเลยทั้งสองจึงสิ้นสุดลงภายหลังที่มีเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยและทำให้สินค้า 2 รายการดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมดจึงอยู่นอกเหนือที่จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิด ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้อง โจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share