คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5122/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เครื่องจักรผสมคอนกรีตติดตรึงตราถาวรกับพื้นดิน ไม่ได้ติดตั้งในโรงเรือนจึงไม่มีข้อพิจารณาว่าโรงเรือนได้ติดตั้งเครื่องจักรผสมคอนกรีตเป็นส่วนสำคัญหรือไม่ ทั้งเครื่องจักรผสมคอนกรีตดังกล่าวก็มิใช่โรงเรือน คงเป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ส่วนสวิตซ์บอร์ด แม้จะเป็นส่วนควบของโรงเรือน อันเป็นสำนักงาน แต่ก็ใช้เป็นเพียงสวิตซ์ ควบคุมการทำงานของเครื่องผสมคอนกรีต หาใช่เป็นส่วนควบที่สำคัญเพื่อใช้ดำเนินการอุตสาหกรรมไม่ ในการประเมินภาษีโรงเรือนจึงจะลดค่ารายปีสำหรับโรงเรือน สำนักงานและเครื่องจักรลงเหลือหนึ่งในสามก่อนคิดภาษีโรงเรือนตาม พ.ร.บ. ภาษีโรงเรือนและที่ดินพ.ศ. 2475 มิได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้รับใบแจ้งรายการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน(ภ.ร.ด.8) ประจำปี พ.ศ. 2530 จากจำเลยที่ 1 โดยกำหนดค่ารายปีสำหรับโรงเรือนรายการที่ 1 ซึ่งเป็นสำนักงาน 31,230 บาท โรงเรือนรายการที่ 2 เครื่องจักรผสมคอนกรีต 120,690 บาท และโรงเรือนรายการที่ 3 บ้านพักคนงาน 1,080 บาท คิดเป็นเงินภาษี 3,470 บาท13,410 บาท และ 120 บาท รวมเป็นเงินภาษีที่โจทก์จะต้องชำระให้จำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 17,000 บาท โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วยกับการประเมินของเจ้าพนักงานของจำเลยที่ 1 จึงได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยที่ 2ขอให้พิจารณาการประเมินใหม่ จำเลยที่ 2 ชี้ขาดให้โจทก์เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินตามที่จำเลยที่ 1 ได้ประเมินไว้ โจทก์เห็นว่าการประเมินและคำชี้ขาดดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือโรงเรือนรายการที่ 1 เป็นสำนักงานและลานดินหน้าสำนักงาน รายการที่ 2เป็นเครื่องจักร บ่อน้ำ ลานดิน กองหิน กองทราย ทั้งสองรายการเป็นโรงเรือนที่โจทก์ติดตั้งเครื่องจักรเข้าเป็นส่วนควบที่สำคัญใช้ดำเนินการอุตสาหกรรมของโจทก์ ย่อมได้รับลดหย่อนค่ารายปีลงเหลือหนึ่งในสามก่อนคำนวณภาษีตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 ซึ่งเมื่อลดค่ารายปีลงแล้วคงเป็นค่าภาษีสำหรับรายการที่ 1 ที่ 2 เป็นเงิน 1,156.67 บาทและ 4,470 บาท จึงเรียกเก็บเงินไปเป็น 11,073.33 บาท ขอให้เพิกถอนการประเมินและคำชี้ขาดของจำเลยทั้งสอง กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินภาษีโรงเรือน 11,073.33 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โรงเรือนรายการที่ 1 เป็นสำนักงานใช้เป็นห้องควบคุมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องจักรผสมคอนกรีตส่วนโรงเรือนรายการที่ 2 มีสภาพเป็นโครงเหล็กมีถังผสมปูนซิเมนต์ลานดิน กองหิน กองทราย และบ่อน้ำ ถือว่าเป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปและมิได้ติดตั้งส่วนควบที่สำคัญ เพียงแต่ใช้เป็นเครื่องผสมปูนเข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกของผู้ใช้มิใช่เป็นการผลิตวัสดุหรือเครื่องกำเนิดสินค้า จึงไม่ได้รับลดหย่อนค่ารายปีลงเหลือหนึ่งในสามของค่ารายปีของทรัพย์สินรวมทั้งส่วนควบขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของจำเลยที่ 1และเพิกถอนคำชี้ขาดของจำเลยที่ 2 ให้คืนเงิน 11,073.33 บาท แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบริษัทโจทก์ดำเนินธุรกิจ ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จส่งให้กับลูกค้าโดยใช้เครื่องจักรรายการที่ 2 คือ เครื่องจักรผสมคอนกรีต ซึ่งติดตรึงตรากับพื้นดินด้วย ตามภาพถ่ายเอกสารหมาย จ.2 ในการผลิตภายใต้การควบคุมของพนักงานของโจทก์ซึ่งอยู่ในอาคารสำนักงานโรงเรือนรายการที่ 1 ตามภาพถ่ายที่กล่าวแล้วซึ่งติดตั้งสวิตช์บอร์ดไว้เพื่อการนี้มีปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองว่าในการประเมินภาษีโรงเรือนสำหรับทรัพย์ดังกล่าวจะต้องลดค่ารายปีลงเหลือหนึ่งในสาม ก่อนคำนวณภาษีโรงเรือนหรือไม่ พิจารณาแล้วพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 มาตรา 13บัญญัติว่า “ถ้าเจ้าของโรงเรือนใดติดตั้งส่วนควบที่สำคัญมีลักษณะเป็นเครื่องจักรกลไก เครื่องกระทำหรือเครื่องกำเนินสินค้า เพื่อใช้ดำเนินการอุตสาหกรรม…ฯลฯ ขึ้นในโรงเรือนนั้น ๆ ในการประเมินท่านให้ลดค่ารายปีลงเหลือหนึ่งในสาม…ฯลฯ” ตามนี้จะเห็นว่าเครื่องจักรกลไก เครื่องกระทำหรือเครื่องกำเนิดสินค้าที่ติดตั้งนั้นต้องติดตั้งในโรงเรือนและต้องเป็นส่วนควบอันสำคัญจึงจะได้รับประโยชน์ตามมาตรานี้ แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า เครื่องจักรผสมคอนกรีตของโจทก์ติดตรึงตราถาวรกับพื้นดิน ไม่ได้ติดตั้งในโรงเรือน จึงไม่มีข้อพิจารณาว่าโรงเรือนได้ติดตั้งเครื่องจักรผสมคอนกรีตเป็นส่วนสำคัญหรือไม่ และหากจะพิจารณาว่า เครื่องจักรผสมคอนกรีตของโจทก์เป็นโรงเรือนเสียเอง เครื่องจักรผสมคอนกรีตของโจทก์ก็ไม่ใช่โรงเรือน เป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆเท่านั้น ดังนี้แม้โจทก์จะติดตั้งเครื่องจักรกลไก เพื่อใช้ในการอุตสาหกรรมผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ลดค่ารายปีลงเหลือหนึ่งในสามก่อนคำนวณภาษี ส่วนโรงเรือนรายการที่ 1อาคารสำนักงาน แม้จะใช้เป็นที่ควบคุมการทำงานของเครื่องจักรผสมคอนกรีตโดยผ่านสวิตช์บอร์ดซึ่งติดอยู่ที่อาคารนั้นก็เห็นได้ว่าการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ความสำคัญอยู่ที่เครื่องจักรผสมคอนกรีตฉะนั้นสวิตช์บอร์ดแม้จะเป็นส่วนควบของโรงเรือนอันเป็นสำนักงานก็หาใช่เป็นส่วนควบที่สำคัญเพื่อใช้ดำเนินการอุตสาหกรรมของโจทก์ไม่การประเมินภาษีโรงเรือนสำหรับสำนักงานจึงลดค่ารายปีสำหรับโรงเรือนนั้นรวมทั้งสวิตช์บอร์ดลงเหลือหนึ่งในสามก่อนคิดภาษีโรงเรือนดังที่โจทก์ฟ้องไม่ได้…”
พิพากษากลับ.

Share