แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยหลายกะทงในคดีเดียวกันนี้ ถ้ารวมโทษทุกกะทงไม่เกินหนึ่งปีแล้วศาลให้รอการลงอาญาได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย ๓ กะทง คือ
ผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืนมาตรา ๑๑,๕๒ ปรับ ๑๖๐ บาท
ผิดกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๒ จำคุกหนึ่งปี
ผิดกฏหมายอาญามาตรา ๑๙๗ จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๒๕๐ บาท
รวม ๓ กะทงให้จำคุก ๑ ปี ๓ เดือนปรับ ๔๑๐ บาท ลดฐานปราณีตามมาตรา ๕๙ คงจำคุก ๗ เดิอน ๑๕ วัน ปรับ ๒๐๕ บาท จำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดมาแต่ก่อน จึงให้รอการลงอาญาไว้ตามมาตรา ๔๑-๔๒
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาโทษจำคุกของจำเลยคือฐานฆ่าคนตายโดยประมาทกับฐานซ่อนเร้นความตาย ขณะศาลวางโทษนี้ ศาลได้พิพากษามาแล้วว่าจำเลยมีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตศาลรอการลงอาญาแก่จำเลย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่าตามความในมาตรา ๔๑ แห่งกฎหมายอาญา ศาลจะรอการลงอาญาไม่ได้ ก็ต่อเมื่อจำเลยต้องคำพิพากษาว่าได้กะทำความผิดมาแต่ก่อน เรื่องนี้จำเลยเพิ่งต้องคำพิพากษาศาลเป็นครั้งแรก จะเรียกว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดมาก่อนแล้วหาได้ไม่ โดยในคดีนี้จำเลยกะทำความผิดต่อเนื่องจากฆ่าคนตายโดยประมาทชอบแล้วที่โจทย์ฟ้องรวมมาเป็นสำนวนเดียวกันเพื่อความสะดวก คดีนี้ศาลได้พิจารณาพิพากษาคราวเดียวกัน เมื่อจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดแต่ก่อน ศาลก็รอการลงอาญาได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์