คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5104/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าจำเลยไม่ทราบถึงการนัดสืบพยานโจทก์ของศาลเลยเนื่องจากจำเลยต้องออกไปทำธุรกิจนอกบ้านเป็นประจำ มาทราบว่าศาลมีคำพิพากษาเมื่อได้รับคำบังคับของศาลแล้วเท่านั้น ดังนี้ เป็นการกล่าวแต่เพียงเหตุที่ตนได้ขาดนัด ไม่มีข้อความตอนใดที่กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น จึงเป็นคำร้องขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ เป็นเจ้าของรถบรรทุกหมายเลขทะเบียน ๘๐ – ๑๕๘๔ อุบลราชธานี จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างขับรถคันดังกล่าวในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ โดยประมาท ชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับพลิกคว่ำ โจทก์ได้รับบาดเจ็บถึงทุพพลภาพ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอให้พิพากษาคดีใหม่
ศาลขั้นต้นยกคำร้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่า คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่มีข้อความว่าจำเลยที่ ๒ ไม่เคยได้รับหมายนัดสืบพยานโจทก์ของศาลชั้นต้นย่อมแสดงให้เห็นว่าการสืบพยานโจทก์ที่ได้กระทำไปไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาจึงเป็นการคัดค้านการดำเนินกระบวนพิจารณาและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว นั้นเห็นว่า คำร้องของจำเลยที่ ๒ อ้างเหตุแต่เพียงว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ทราบถึงการนัดสืบพยานโจทก์ของศาลเลย เนื่องจากจำเลยต้องออกไปทำธุรกิจนอกบ้านเป็นประจำมาทราบว่าศาลได้มีคำพิพากษาคดีนี้ต่อเมื่อได้รับคำบังคับของศาลแล้วเท่านั้นจึงเป็นการกล่าวแต่เพียงเหตุที่ตนได้ขาดนัด ไม่มีข้อความตอนใดที่กล่าวว่าการสืบพยานของศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาแต่อย่างใด จำเลยที่ ๒ เพิ่งยกความข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ฎีกา ถือไม่ได้ว่าคำร้องของจำเลยที่ ๒ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น จึงเป็นคำร้องขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๘ วรรคสองฎีกาจำเลยที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าหมายความชั้นฎีกาแทนโจทก์

Share