คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทางเดินที่ใช้มานานจนเป็นภาระจำยอมแล้วเมื่อมีการโอนที่ดินภารยะทรัพย์ต่อไป หรือมีทางเดินทางอื่นอีก ก็ไม่ทำให้ที่ดินนั้นขาดสภาพภารจำยอมไปได้,ภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นได้โดยอายุความ โดยไม่จำเป็นว่าที่ดินนั้นจะอยู่ในที่ล้อมหรือไม่

ย่อยาว

คดีได้ความว่า ที่ดินที่มีทางรายพิพาทอยู่ริมแม่น้ำปิง ทางรายพิพาทหมายเลข ๑ ได้ใช้เป็นทางเดินกันมา ๒๕ ปีแล้ว จำเลยได้รับโอนจากเจ้าของเดิมเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓-๒๔๗๔ ต่อมา พ.ศ.๒๔๘๖ จำเลยปิดทางหมายเลข ๑ นี้เสีย และเปิดทางหมายเลข ๒ ให้โจทก์ใช้เดินแทน ครั้น พ.ศ.๒๔๘๗ จำเลยได้โอนที่ ๆ มีทางหมายเลข ๒ นี้ให้นายอุดมจำเลยที่ ๓ ๆก็ปิดทางนี้เสียอีก โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยเปิดทางหมาย ๑ และ ๒ นี้เป็นทางตามเดิม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ทางหมายเลข ๑ ไม่ใช่ภาระจำยอม เพราะที่ดินของโจทก์มีทางออกได้ ไม่ใช่อยู่ในที่ล้อมทางหมายเลข ๒ จำเลยเพิ่งยอมให้โจทก์เดิมเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๖ ยังไม่กลายเป็นทางสาธารณะ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เห็นว่าทางหมายเลข ๑ ได้ใช้เดินกันมา ๒๒ ปีเศษแล้ว นับว่าภาระจำยอมได้เกิดขึ้นโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๐๑ จำเลยไม่มีสิทธิจะปิดกั้นทางนี้ พิพากษาแก้ให้จำเลยเปิดทางเดินหมายเลข ๑ ต่อไป นอกนั้นยืนตาม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะมีทางสาธารณะติดกับที่ดินของโจทก์แล้วก็ดี ก็ไม่ทำให้ภาระจำยอมที่เกิดขึ้นนั้นขาดสภาพไปได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share