แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่ คำสั่งไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๓ ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ตาม มาตรา ๑๙๓.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ จำคุกจำเลย ๕ เดือน
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลา ยื่นฎีกาของจำเลยนั้น คำสั่งดังกล่าวไม่ใช่เป็นคำสั่งไม่รับฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๓ จำเลยย่อมมีสิทธิ อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๓ การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยโดยว่าเป็นการอุทธรณ์ คำสั่งเกี่ยวเนื่องกับการรับหรือไม่รับฎีกา ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๒ ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ จำเลยจึงชอบที่จะอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกา และพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่ง สำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ แล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและ พิพากษาใหม่ตามรูปคดี.