แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยได้ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์แล้ว ปัญหาเรื่องอนาถาตามฎีกาของจำเลย จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีที่จะพิจารณาต่อไป ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนมรดกเฉพาะส่วนในที่ดินโฉนดเลขที่ ๗๖๗ และ ๗๘๕  ตำบลเกาะท่าพระอำเภอบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ระหว่างนางห่วง มีไพฑูรย์ กับนางประยูรพรพันธุ์ เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๓๓ และเพิกถอนการจดทะเบียนให้ที่ดินโฉนดดังกล่าวระหว่างนางประยูร พรพันธุ์ กับนางอุไรวรรณ ชัยสวัสดิ์  (จำเลยคดีนี้)เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๓๓  กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท
        จำเลยอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา
        ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง  ครั้นในวันนัดไต่สวนวันที่ ๒๑ตุลาคม ๒๕๓๗ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา ทนายโจทก์มาศาล  ส่วนฝ่ายจำเลยทราบวันนัดโดยชอบแล้วไม่มีผู้ใดมาศาล  ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยไม่มีพยานมาไต่สวนจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนตามคำร้อง ให้ยกคำร้อง  หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายในวันที่ ๗ พฤศจิกายน๒๕๓๗
        ต่อมาวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๓๗  จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยเข้าใจเวลานัดเป็น ๑๓ นาฬิกา จึงไม่ได้มาศาลในเวลา ๘.๓๐ นาฬิกา ตามนัดจำเลยยังเป็นคนยากจนอยู่  ขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยใหม่ เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาไต่สวนแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน
        ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลได้ยกคำร้องขออนาถาของจำเลยเพราะจำเลยไม่มาศาลในวันนัดไต่สวน ถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจน ประเด็นเรื่องอนาถายุติแล้ว  ให้ยกคำร้อง
        จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
        ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยหากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้
        จำเลยฎีกาคำสั่ง
        ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า การที่จำเลยขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย  แต่เมื่อปรากฏตามสำนวนว่า บัดนี้จำเลยได้ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์แล้ว ปัญหาเรื่องอนาถาตามฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีที่จะพิจารณาต่อไป
        ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา.

