แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาการเลี้ยงไก่ ระบุราคาลูกไก่ อาหารไก่ไว้แน่นอน เมื่อไก่เจริญเติบโตแล้วโจทก์ร่วมจะมาจับไปฆ่าโดยตีราคาไก่ตามน้ำหนักซึ่งเมื่อได้ยอดเงินเท่าใดก็จะเอายอดเงินค่าลูกไก่ อาหารไก่และวัคซีน ไก่มาหักออก หากเหลือเงินก็จะมอบให้เป็นประโยชน์แก่จำเลยแต่ถ้าเงินไม่พอจำเลยจะต้องชำระค่าลูกไก่ อาหารไก่ และวัคซีน ไก่ที่ค้างอยู่ทั้งหมด จึงไม่ใช่สัญญาฝากทรัพย์ แต่เป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมยอมให้จำเลยซื้อลูกไก่ อาหารไก่และวัคซีน ไก่ด้วยเงินเชื่อโดยมีข้อตกลงว่าเมื่อไก่เจริญเติบโตแล้วจะต้องนำมาขายให้โจทก์ร่วมเมื่อโจทก์ร่วมส่งมอบลูกไก่ให้จำเลยกรรมสิทธิ์ในลูกไก่ย่อมตกเป็นของจำเลยทันที จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานยักยอก.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันรับไก่จำนวน 30,960ตัวของผู้เสียหายไว้เลี้ยงดูแลรักษาในความครอบครอง ต่อมาจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันเบียดบังยักยอกเอาไก่ดังกล่าวจำนวน 19,481 ตัวไปขายโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 83ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 584,430 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 จำคุกคนละ 1 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 584,430 บาท แก่โจทก์ร่วม
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาการเลี้ยงไก่ระบุราคาลูกไก่ อาหารไก่ไว้แน่นอน และเมื่อไก่เจริญเติบโตแล้วโจทก์ร่วมจะมาจับไปฆ่าโดยตีราคาไก่ตามน้ำหนัก ซึ่งเมื่อได้ยอดเงินเท่าใดก็จะเอายอดเงินค่าลูกไก่ และวัคซีนไก่มาหักออก หากเหลือเงินก็จะมอบให้เป็นประโยชน์แก่จำเลยทั้งสอง แต่ถ้าเงินไม่พอ จำเลยทั้งสองจะต้องชำระค่าลูกไก่อาหารไก่ และวัคซีนไก่ที่ค้างอยู่ทั้งหมด เช่นนี้จึงไม่ใช่สัญญาฝากทรัพย์ แต่เป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมยอมให้จำเลยทั้งสองซื้อลูกไก่อาหารไก่และวัคซีนไก่ด้วยเงินเชื่อโดยมีข้อตกลงว่า เมื่อไก่เจริญเติบโตแล้วจะต้องนำมาขายให้โจทก์ร่วม ดังนั้นเมื่อโจทก์ร่วมส่งมอบลูกไก่ให้จำเลยทั้งสองกรรมสิทธิ์ในลูกไก่ย่อมตกเป็นของจำเลยทั้งสองทันที จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันรับลูกไก่จากโจทก์ร่วมและเบียดบังไว้โดยทุจริตหรือไม่ เพราะถึงจำเลยทั้งสองได้กระทำเช่นนั้นจริง จำเลยทั้งสองก็ไม่มีความผิดฐานยักยอก
พิพากษายืน.