คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5054/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะที่โจทก์ร่วมนอนรอดูโทรทัศน์ จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมใบมีดยาว 6 นิ้ว กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร แทงโจทก์ร่วมที่ราวนมซ้ายอย่างแรง โจทก์ร่วมกอดปล้ำต่อสู้กับจำเลย จำเลยได้ใช้มีดแทงทำร้ายโจทก์ร่วมอีกหลายทีถูกศีรษะ เอว และสะบัก เป็นบาดแผลหลายแห่ง ขณะทำร้ายจำเลยพูดด้วยว่า “กูพยายามจะฆ่ามึงมานานแล้วทีนี้ถึงสำเร็จ” เฉพาะบาดแผลที่ราวนมซ้ายลึกถึงเนื้อปอด มีลมออกมาจากบาดแผล อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงโจทก์ร่วมที่อวัยวะสำคัญ เกิดบาดแผลฉกรรจ์ และขณะแทงทำร้ายจำเลยพูดในทำนองเคียดแค้นจะเอาชีวิตโจทก์เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมไม่ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมเป็นอาวุธแทงทำร้ายพยายามฆ่านายมา สายสุทธิ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๐ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นายมา สายสุทธิ์ ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๒ ปี ริบมีดปลายแหลมของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติในเบื้องต้นว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมใบมีดยาว ๖ นิ้ว กว้าง ๒ เซนติเมตร แทงทำร้ายโจทก์ร่วม ทำให้โจทก์ร่วมได้รับบาดแผลหลายแห่งคือ แผลที่ศีรษะยาว ๒ เซนติเมตร ลึกครึ่งเซนติเมตร ราวนมข้างซ้ายยาว ๑.๕ เซนติเมตรเอวหลังด้านขวายาว ๑.๕ เซนติเมตร สะบักขวายาว ๒ เซนติเมตร ลึกครึ่งเซนติเมตร สะบักขวาค่อนไปทางรักแร้ขวา ๒ แผล แต่ละแผลยาว ๒ เซนติเมตร ลึก ๑ เซนติเมตร ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วมหรือไม่ โจทก์ร่วมเบิกความว่าขณะโจทก์ร่วมนอนรอดูโทรทัศน์อยู่ที่แคร่ไม้หน้าร้านนายทวง รู้สึกตัวว่าถูกแทงอย่างแรงที่ราวนมข้างซ้าย ลืมตาขึ้นมาเห็นจำเลยเงื้อมีดจะแทงซ้ำจึงพลิกตัวหลบตกไปอยู่ข้างเท้าของจำเลย โจทก์ร่วมพยายามจะลุกขึ้น แต่จำเลยใช้มือซ้ายกดโจทก์ร่วมและใช้มือขวาที่กำมีดกระหน่ำแทงบริเวณด้านหลังโจทก์ร่วมพร้อมกับร้องว่า “กูพยายามจะฆ่ามึงมานานแล้วทีนี้ถึงสำเร็จ” โจทก์ร่วมพยายามดิ้นรน ล้มทับจำเลยแล้วกอดปล้ำต่อสู้กัน จำเลยใช้มีดแทงศีรษะและบริเวณด้านหลังโจทก์ร่วมอีก และมีนายทวง อินธิรัตน์ เจ้าของร้านที่เกิดเหตุเบิกความสนับสนุนว่า โจทก์ร่วมได้มานอนรอดูโทรทัศน์อยู่ที่แคร่หน้าร้าน ห่างประตูหน้าบ้านประมาณ ๑ เมตร โจทก์ร่วมนอนอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง พยานได้ยินเสียงเอะอะ ได้ยินจำเลยร้องขึ้นว่ามึงตายซะกูพยายามฆ่ามึงมานานแล้ว ยังไม่สำเร็จ คราวนี้สำเร็จแล้วเห็นจำเลยใช้มือซ้ายกดคอโจทก์ร่วม ส่วนมือขวาถืออาวุธมีดจ้วงแทงและเบิกความตอบคำถามค้านว่า ก่อนเกิดเหตุจำเลยกับโจทก์ร่วมไม่ได้ดื่มสุราด้วยกัน เห็นว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน นายทวงไม่ได้เป็นญาติเกี่ยวข้องกับโจทก์ร่วม รู้เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิดทั้งไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลย คำเบิกความของนายทวงจึงมีน้ำหนักรับฟังได้ ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมของกลางอันมีขนาดใหญ่ ลอบแทงโจทก์ร่วมหลายทีถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย โดยเฉพาะบาดแผลที่ราวนมข้างซ้าย นายแพทย์นำชัย พัฒนกุลผู้ตรวจชันสูตรบาดแผลเบิกความว่าเป็นแผลที่มีอันตรายมาก มีความลึกถึงเนื้อปอดเพราะตรวจพบลมออกมาจากบาดแผล แผลดังกล่าวอาจทำให้ถึงตายได้ หากปรากฏว่ามีเลือดและลมออกมาจากบาดแผลมาก ทั้งขณะแทงจำเลยก็ร้องด้วยความเคียดแค้นว่า “กูพยายามจะฆ่ามึงมานานแล้วทีนี้ถึงสำเร็จ” เช่นนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share