คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยผู้เป็นตำรวจจับเขามาด้วยข้อหาอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วเรียกเอาเงินเขา เมื่อได้เงินแล้วก็ปล่อยไปนั้น แม้ข้อหาที่จับมานั้นจะเป็นข้อหาที่นมนานขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว ก็ย่อมถือได้ว่า เป็นเรื่องเรียกสินบนเพื่อปฏิบัติการผิดหน้าที่ ซึ่งนอกเหนือเเหลือเกินมิชอบด้ยอำนาจหน้าที่ของจำเลย ย่อมเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 138

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๓๘, ๑๔๒.
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๓๘ วรรค ๒ ฯลฯ จำคุก ๓ ปี ลดกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาตรวจสอบสำนวนแล้ว ได้ความว่าจำเลยเป็นตำรวจประจำการได้ไปจับกุมนายยิหวาฐานหลบหนีราชการทหาร มาระหว่างทางจำเลยพูดกับนายยิหวาว่า จะช่วยให้ปลอดภัย ขอ ๕๐๐ บาท นายยิหวาว่ามีเพียง ๔๐๐ จำเลยก็ตกลงพานายยหวาไปเอาเงินในเรือ และปรากฏว่านายยิหวาได้หนีราชการทหารมา ๒ ปี แล้ว ได้ความเช่นนี้ เห็นว่าการที่จำเลยผู้เป็นตำรวจจับเขามาด้วยข้อหาอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วเรียกเอาเงินเขา เมื่อได้เงินแล้วก็ปล่อยไป แม้ข้อหาเช่นนั้นจะนมนานมาแล้ว ก็ดี ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นเรื่องเรียกเงินสินบนเพื่อปฏิบัติการผิดหน้าที่ ซึ่งนอกเหนือเหลือเกิน มิชอบด้วยอำนาจหน้าที่าของจำเลย เข้าบทมาตรา ๑๓๘ แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา
จึงพิพากษายืน

Share