แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คนขายก๋วยเตี๋ยวมีเงินเหรียนรวม 35 บาท 25 สตางค์และมีสตางค์ 10 บาท 23 สตางค์ไม่ถือว่าเปนการเกินสมควน ไม่มีความผิด.
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเปนผู้ค้าก๋วยเตี๋ยวมีรายได้หย่างสูงวันหนึ่ง ๑๑-๑๘ บาท เหรียนกสาปน์ที่จับได้จากจำเลยคือเหรียนบาท ๘ บาท เหรียนสองสลึง ๘ บาท เหรียนสลึง ๒๕ บาทบันจุกะป๋องนมฝังดินไว้ กับได้สตางค์สิบสตางค์ห้า เหรียนสลึง ๕ เหรียนรวม ๑๐ บาท ๓๖ สตางค์ห่อกะดาดมัดไว้บนพื้นดินข้างฝา สตางค์แดง ๑๑๓ อันร้อยเปนพวงวางไว้ข้างเตียง
สาลชั้นต้นลงโทสจำเลยถานค้าเหรียนกะสาปน์
สาลอุธรน์เห็นว่าตามพระราชบัญญัติ เงินตามภาวะฉุกเฉินไม่กินความถึงเหรียนบาท เหรียนสองสลึงและหนึ่งสลิง จำเลยจึงไม่มีความผิด แต่มีความเห็นแย้งว่าตามพระราชบัญญัติหมายถึงเหรียนกสาปน์ทุกชนิด แต่คดีนี้เห็นว่าจำเลยมีไว้ไม่เกินสมควน
โจทดีกาสาลดีกาเห็นว่าเหรียนกสาปน์ทุกชนิดหยู่ไนข่ายแห่งพระราชบัญญัติเงินตราไหนภาวะฉุกเฉินทั้งสิ้น แต่การที่จะพิสูจน์ถึงการกะทำอันได้ชื่อว่าเปนกาารค้าเหรียนกสาปน์นั้นมีข้อกำหนดไว้ต่างกัน คดีนี้ เห็นว่าจำเลยมีไว้ไม่เกินสมควน จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.