แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินและบ้านพิพาทเป็นของโจทก์โดยจำเลยทั้งสี่โอนให้เพื่อชำระหนี้จำนองจำเลยทั้งสี่ให้การต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสี่เป็นเจ้าของโดยจำเลยทั้งสี่ได้ยื่นฟ้องโจทก์กับพวกเป็นคดีอาญาสินไหมว่าร่วมกันปลอมลายมือชื่อจำเลยที่4ในหนังสือมอบอำนาจและนำไปขอจดทะเบียนโอนที่ดินและบ้านพิพาทเป็นของโจทก์และขอให้เพิกถอนการโอนประเด็นในคดีอาญามีว่าลายมือชื่อของจำเลยที่4ในหนังสือมอบอำนาจปลอมหรือไม่เช่นเดียวกับคดีนี้ซึ่งคำวินิจฉัยในคดีอาญาอาจทำให้การชี้ขาดตัดสินคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปทั้งจำเลยทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นงดการอ่านคำพิพากษาคดีนี้ไว้แล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา39เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งประทับฟ้องคดีอาญาแล้วจึงมีเหตุสมควรที่จะงดรอฟังข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวไว้ก่อน
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สี่ และ บริวาร ออกจาก บ้าน และ ที่ดินตาม ฟ้อง กับ ร่วมกัน ใช้ ค่าเสียหาย จำนวน 400,000 บาท และ ค่าเสียหายเดือน ละ 30,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง จนกว่า จำเลย ทั้ง สี่ และ บริวาร จะออก ไป จาก บ้าน และ ที่ดิน ตาม ฟ้อง
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ขอให้ ยกฟ้อง
ระหว่าง พิจารณา จำเลย ที่ 2 ถึงแก่กรรม นาย บุญเกิด แก้วฉาย ทายาท ของ จำเลย ที่ 2 ยื่น คำร้องขอ เข้า เป็น คู่ความ แทน ศาลชั้นต้นอนุญาต
หลังจาก เสร็จ การ สืบพยานโจทก์ ซึ่ง เป็น ฝ่าย นำพยาน เข้าสืบ ภายหลังแล้ว จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ยื่น คำร้องขอ ให้ ศาลชั้นต้น งด การ อ่าน คำพิพากษา โดยอ้างว่า ศาลอุทธรณ์ ได้ มี คำสั่ง ประทับ ฟ้องคดี ที่ จำเลย ทั้ง สี่ ยื่นฟ้องโจทก์ เป็น จำเลย ใน คดีอาญา หมายเลขดำ ที่ 744/2532 คดี หมายเลขแดงที่ 1344/2532 ของ ศาลชั้นต้น ไว้ แล้ว ศาลชั้นต้น สั่ง ยกคำร้อง ของจำเลย ทั้ง สี่ โดย มี คำสั่ง ใน วันนัด ฟัง คำพิพากษา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลยทั้ง สี่ และ บริวาร ออก ไป จาก ที่ดิน โฉนด เลขที่ 11395 ตำบล สองห้อง (สีกัน) อำเภอ ปากเกร็ด (ตลาดขวัญ) จังหวัด นนทบุรี และ ออก ไป จาก บ้าน เลขที่ 29 และ 29/16 ซึ่ง ปลูก อยู่ ใน ที่ดิน ดังกล่าว และ ให้จำเลย ทั้ง สี่ ร่วมกัน ชำระ เงิน ค่าเสียหาย ให้ แก่ โจทก์ 3,500 บาทกับ ค่าเสียหาย ต่อไป เดือน ละ 5,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง (วันที่ 9ตุลาคม 2534) จนกว่า จำเลย และ บริวาร จะ ออก ไป จาก บ้าน และ ที่ดินพิพาท คำขอ อื่น ให้ยก เสีย
จำเลย ทั้ง สี่ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายก คำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ ศาลชั้นต้นพิพากษาคดี ใหม่ โดย งด รอ คดี นี้ ไว้ ฟัง ข้อเท็จจริง ตาม ที่ จะ ปรากฏ ในคำพิพากษา คดี ส่วน อาญา ตาม คดี หมายเลขดำ ที่ 744/2532 คดี หมายเลขแดงที่ 1344/2532 ของ ศาลชั้นต้น ก่อน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่าสมควร งด รอ ฟัง ข้อเท็จจริง ใน คดีอาญา หมายเลขดำ ที่ 744/2532หมายเลขแดง ที่ 1344/2532 ของ ศาลชั้นต้น หรือไม่ โจทก์ ฎีกา ว่า คดี นี้โจทก์ ฟ้อง ว่า ที่ดิน และ บ้าน พิพาท เป็น ของ โจทก์ จำเลย ทั้ง สี่ ต่อสู้ ว่าที่ดิน และ บ้าน พิพาท เป็น ของ จำเลย ทั้ง สี่ ประเด็น ข้อพิพาท จึง มี ว่าที่ดิน และ บ้าน พิพาท เป็น ของ ใคร ส่วน คดีอาญา หมายเลขแดง ที่ 1344/2532ของ ศาลชั้นต้น มี ประเด็น ว่า จำเลย (โจทก์ คดี นี้ ) ปลอม หนังสือมอบอำนาจหรือไม่ เป็น คน ละ ประเด็น กัน การ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ยก ประเด็น นี้ขึ้น วินิจฉัย จึง นอกประเด็น เมื่อ คดี นี้ ได้ มี การ สืบพยานโจทก์ และพยาน จำเลย เสร็จ แล้ว จึง สามารถ วินิจฉัย คดี นี้ ได้ โดย ไม่ต้อง รอ ฟังข้อเท็จจริง ใน คดีอาญา นั้น เห็นว่า คดี นี้ โจทก์ ฟ้อง อ้างว่า ที่ดินและ บ้าน พิพาท เป็น กรรมสิทธิ์ ของ โจทก์ โดย จำเลย ทั้ง สี่ โอน ที่ดินและ บ้าน พิพาท ให้ โจทก์ เพื่อ ชำระหนี้ จำนอง จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ต่อสู้ว่า จำเลย ทั้ง สี่ อยู่ ใน ที่ดิน และ บ้าน พิพาท ใน ฐานะ เจ้าของ กรรมสิทธิ์จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ยื่นฟ้อง โจทก์ กับพวก เป็น คดีอาญา สินไหม ตาม คดีอาญาหมายเลขดำ ที่ 744/2532 หมายเลขแดง ที่ 1344/2532 ขอให้ เพิกถอนการ โอน ที่ดิน และ บ้าน พิพาท และ ปรากฏ ตาม สำเนา คำฟ้อง เอกสาร หมายจ. 10 ว่า คดีอาญา ดังกล่าว จำเลย ทั้ง สี่ กล่าวหา ว่า โจทก์ กับพวก ร่วมกันกระทำ ความผิด ฐาน ปลอม หนังสือมอบอำนาจ และ ใช้ เอกสาร ใบมอบอำนาจ ปลอมโดย โจทก์ กับพวก ร่วมกัน ปลอม ลายมือชื่อ จำเลย ที่ 4 ใน หนังสือมอบอำนาจและ นำ ไป ขอ จดทะเบียน โอน ที่ดิน และ บ้าน พิพาท เป็น ของ โจทก์ ขอให้เพิกถอน การ โอน ดังนั้น ประเด็น ใน คดีอาญา จึง มี ว่า ลายมือชื่อ ในใบมอบอำนาจ ของ จำเลย ที่ 4 เป็น ลายมือชื่อปลอม หรือไม่ ซึ่ง จะ ต้องวินิจฉัย อย่างเดียว กัน กับ คดี นี้ ซึ่ง หาก ศาล ใน คดีอาญา วินิจฉัย ว่าลายมือชื่อ ของ จำเลย ที่ 4 ใน หนังสือมอบอำนาจ เป็น ลายมือชื่อปลอมอาจ ทำให้ การ ชี้ขาด ตัดสิน คดี นี้ เปลี่ยนแปลง ไป และ คดี นี้ จำเลย ทั้ง สี่ก็ ได้ ยื่น คำร้องขอ ให้ ศาลชั้นต้น งด การ อ่าน คำพิพากษา คดี นี้ ไว้ แล้ว ก่อนที่ ศาลชั้นต้น จะ มี คำพิพากษา อัน ถือได้ว่า เป็น การ ขอให้ ศาลชั้นต้นเลื่อน การ นั่งพิจารณา ไป ตาม ที่ บัญญัติ ไว้ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 39 เมื่อ ข้อเท็จจริง ฟังได้ว่า คดีอาญา หมายเลขดำ ที่ 744/2532 หมายเลขแดง ที่ 1344/2532ศาลอุทธรณ์ มี คำสั่ง ประทับ ฟ้อง แล้ว จึง มีเหตุ สมควร ที่ จะ งด รอ ฟังข้อเท็จจริง ใน คดี ดังกล่าว ไว้ ก่อน ซึ่ง การ จะ รอ ฟัง ข้อเท็จจริง ใน คดีอาญาหรือไม่ เป็น ดุลพินิจ ของ ศาล การ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ใช้ ดุลพินิจให้ งด การ พิจารณา คดี นี้ ไว้ รอ ฟัง ข้อเท็จจริง ที่ จะ ปรากฏ ใน คำพิพากษาคดี ส่วน อาญา จึง ชอบแล้ว ฎีกา ของ โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน