แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้การที่ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องขอของผู้ร้องในคดีไม่มีข้อพิพาทให้ผู้คัดค้านจะเป็นการแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบโดยตรงเพื่อใช้สิทธิร้องคัดค้านได้โดยสะดวกก็ตาม แต่ศาลก็ไม่ควรกำหนดเวลาสำหรับการยื่นคำร้องคัดค้านให้ต่างไปจากประกาศคำร้องขอและกำหนดนัดไต่สวนที่ประกาศทางหนังสือพิมพ์จนเสียหายแก่สิทธิของผู้คัดค้าน ซึ่งหากไม่มีการส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอผู้คัดค้านก็ชอบที่จะร้องคัดค้านเมื่อใดก็ได้ก่อนที่ศาลจะไต่สวน ฉะนั้นเมื่อผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านก่อนที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนคำร้องขอ ศาลชั้นต้นก็ต้องรับคำร้องคัดค้านไว้พิจารณา จะนับระยะเวลาตามหมายนัดมาตัดสิทธิของผู้คัดค้านหาได้ไม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งร้อยเอกหญิงฉันทนีเลียดประถม พันโทสุบรรณ อยู่สุข และนางสมสุข อยู่สุข เป็นผู้จัดการมรดกของพันเอกสมนึก อยู่สุข ผู้ตาย ตามพินัยกรรมของผู้ตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำร้องขอประกาศนัดไต่สวน โดยให้นัดไต่สวนในวันที่ 14 กันยายน 2541เวลา 9 นาฬิกา ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิ่มเติมว่า ปรากฏว่านางสาวศิริวรรณอยู่สุข ได้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายไว้อีกคดีหนึ่ง จึงให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาคำร้องขอให้นางสาวศิริวรรณภายใน 7 วัน หากนางสาวศิริวรรณคัดค้านก็ให้ยื่นคำคัดค้านภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง มิฉะนั้นถือว่าไม่คัดค้าน และให้ปิดหมายได้ วันที่ 22 สิงหาคม 2541 เจ้าหน้าที่ศาลได้นำหมายนัดและสำเนาคำร้องขอของผู้ร้องไปปิดไว้ ณ ภูมิลำเนาของนางสาวศิริวรรณ ในวันที่ 14 กันยายน 2541 อันเป็นวันนัดไต่สวนผู้ร้องร้อยเอกหญิงฉันทนี พันโทสุบรรณ นางสมสุขและนางสาวศิริวรรณมาศาลศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เลื่อนไปนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 22 กันยายน 2541เวลา 13.30 นาฬิกา ตามคำร้องของทนายความของนางสาวศิริวรรณ และตามคำแถลงของผู้ร้องซึ่งอ้างว่ายังไม่ครบกำหนดระยะเวลาที่นางสาวศิริวรรณอาจยื่นคำคัดค้านได้ ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2541 นางสาวศิริวรรณผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับเป็นคำคัดค้าน สำเนาให้ผู้ร้อง หลังจากนั้นศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่ว่า “ได้ตรวจสำนวนอีกครั้ง ได้ปิดหมายฯ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ศกนี้ ผู้ร้องคัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านพ้นกำหนดเวลาแล้ว จึงเพิกถอนคำสั่งเดิม ไม่รับคำคัดค้าน”
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้คัดค้านมีสิทธิยื่นคำคัดค้านภายหลังจากพ้นกำหนดตามหมายนัดของศาลชั้นต้นแล้วหรือไม่ ในปัญหาข้อนี้เห็นว่า ผู้ร้องเริ่มคดีโดยการยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิได้บัญญัติให้ต้องมีการส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอให้แก่ผู้ใด การที่ศาลชั้นต้นประกาศคำร้องขอและกำหนดนัดไต่สวนทางหนังสือพิมพ์ระหว่างวันที่ 8 ถึงวันที่22 สิงหาคม 2541 โดยกำหนดนัดไต่สวนในวันที่ 14 กันยายน 2541 หลังจากครบกำหนดประกาศดังกล่าวเกินกว่า 15 วัน ก็เป็นการชอบแล้ว และตามประกาศของศาลชั้นต้นกำหนดว่า ถ้าผู้ใดจะคัดค้านคำร้องขอนี้ประการใดให้ยื่นคำร้องต่อศาลก่อนกำหนดนี้ ซึ่งหมายความว่าผู้มีส่วนได้เสียอาจยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องได้ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะลงมือไต่สวนสืบพยานของผู้ร้องหากมีการเลื่อนการไต่สวนออกไปโดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ทำการไต่สวนสิทธิในการยื่นคำร้องคัดค้านของผู้มีส่วนได้เสียก็ยังคงมีอยู่ ดังนี้ แม้การที่ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องขอของผู้ร้องให้ผู้คัดค้านจะเป็นการแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบโดยตรงเพื่อจะได้สิทธิในการยื่นคำร้องคัดค้านได้โดยสะดวกก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นก็ไม่ควรกำหนดเวลาสำหรับการยื่นคำร้องคัดค้านให้แตกต่างไปจากประกาศคำร้องขอและกำหนดนัดไต่สวนที่ประกาศทางหนังสือพิมพ์จนเป็นที่เสียหายแก่สิทธิของผู้คัดค้านเห็นได้ว่า หากไม่มีการส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอของผู้ร้องให้แก่ผู้คัดค้านแล้ว ผู้คัดค้านก็ชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านเมื่อใดก็ได้ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะลงมือไต่สวน การที่ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาแก่ผู้คัดค้านตามที่ระบุไว้ในหมายนัด จึงไม่กระทบถึงสิทธิของผู้คัดค้านในอันที่จะยื่นคำร้องคัดค้านตามกำหนดในประกาศคำร้องขอและกำหนดนัดไต่สวนของศาลชั้นต้น เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านก่อนที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนคำร้องขอของผู้ร้องศาลชั้นต้นก็ต้องรับคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านไว้พิจารณา จะนับระยะเวลาตามหมายนัดมาตัดสิทธิของผู้คัดค้านหาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่รับคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านเสียนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้คัดค้านฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้รับคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านไว้ดำเนินการต่อไป