คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4974/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จ แม้บรรยายรายละเอียดว่าข้อความที่เบิกกับความจริงเป็นอย่างไร และว่าเป็นข้อสำคัญของคดี แต่เมื่อไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในข้อหาหรือฐานความผิดอะไร ข้อความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร ประเด็นสำคัญของคดีมีว่าอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงยังไม่อาจให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ตรวจพิสูจน์เอกสารในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๒๑/๒๕๒๖ จำเลยเบิกความต่อศาลในคดีหมายเลขแดงที่ ๘๕๔๑/๒๕๒๘ คนละคดีกับที่มีการตรวจพิสูจน์ว่า หนังสือนำส่งระบุให้ตรวจพิสูจน์เอกสารเพียง ๓ ข้อ มิใช่ ๗ ข้อ และจำเลยตรวจพิสูจน์ทุกข้ออันเป็นความเท็จ ความจริงศาลให้จำเลยตรวจพิสูจน์ ๗ ข้อ และจำเลยเบิกความว่าคำว่าผู้กู้และผู้ค้ำประกันไม่ได้พิมพ์ในคราวเดียวกับข้อความอื่น ๆ ในเอกสารอันเป็นเท็จ ความจริงพิมพ์คราวเดียวกัน จำเลยเบิกความเท็จในข้อสำคัญในคดี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยตรวจพิสูจน์ตามหลักวิชาการ หากความเห็นจำเลยไม่ตรงกับความจริง ทางพิจารณาก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำโดยทุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์และทางไต่สวนไม่ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องนางสรณีย์กับพวก (คดีที่อ้างว่าจำเลยนี้เป็นพยานแล้วเบิกความอันเป็นเท็จ) ในข้อหาฐานใด จำเลยไม่อาจทราบว่าคำเบิกความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยมีว่า ฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) หรือไม่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๗๙๖๗/๒๕๒๗ คดีหมายเลขแดงที่ ๘๕๔๑/๒๕๒๘ ของศาลอาญา โดยบรรยายรายละเอียดข้อความที่เบิกกับความจริงเป็นอย่างไร และว่าเป็นข้อสำคัญของคดี แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในคดีก่อนข้อหาหรือฐานความผิดอะไร ข้อความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร ประเด็นสำคัญของคดีมีว่าอย่างไร เห็นว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่อาจให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ถือว่าเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕)
พิพากษายืน

Share