คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตำแหน่งพนักงานห้ามล้อ ได้นำตั๋วค่าธรรมเนียมรถเร็วที่จำเลยขายแล้วซึ่งถูกขูดลบถอนแก้เครื่องหมายแสดงว่าใช้ไม่ได้แล้ว เพื่อให้ใช้ได้อีกมาขายให้แก่ผู้โดยสารรถไฟ การกระทำของจำเลยเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตและเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยจำหน่ายตามหน้าที่เป็นของจำเลย จึงเป็นความผิดตามมาตรา 147 และ 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 45/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตำแหน่งพนักงานห้ามล้อ ได้บังอาจใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต ปลอมตั๋วธรรมเนียมรถเร็วหมายเลข ๑๑๔๘๕ ซึ่งขายและใช้แล้ว โดยจำเลยขูดลบตัวเลขวันที่ในตั๋วนั้นออกเสียแล้วเขียนตัวเลขวันที่ใหม่ลงแทน และได้ขายตั๋วธรรมเนียมที่จำเลยได้ขูดลบแก้ไขนั้นให้แก่นายบรรจง อุดรนคร ผู้โดยสารรถไฟไปราคา ๑๐ บาท แล้วจำเลยได้บังอาจเขียนยังยักยอกเงิน ๑๐ บาทนั้นเสีย โดยเจตนาทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗, ๑๕๑, ๑๖๑, ๒๕๘, ๒๖๐ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ และขอให้ริบของกลางกับให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๑๐ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยได้นำตั๋วค่าธรรมเนียมที่ใช้แล้วมาแก้ตัวเลขวันที่แล้วขายแก่ผู้โดยสารจริงดังฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗, ๑๕๑, ๑๖๑ ลงโทษตามมาตรา ๑๔๗ และ ๑๖๑ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๓ ปี ริบตั๋วของกลาง คำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๑๐ บาทนั้น ให้ยกเสีย เพราะจำเลยออกตั๋วใหม่ให้ผู้เสียหายโดยจำเลยออกเงินค่าตั๋วนั้นแทนไปแล้ว
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมิได้กระทำผิดต่อมาตรา ๑๖๑ แต่ได้กระทำผิดมาตรา ๒๖๐ ให้ลงโทษตามมาตรา ๑๔๗ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลย ๒ ปี
จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗, ๑๕๑ เพราะจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต ทั้งตามบทบัญญัติดังกล่าวก็มิได้ระบุถึงองค์การรถไฟด้วยและจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา ๒๖๐ ด้วย เพราะความผิดตามมาตรานี้ไม่เป็นความผิดได้ในตัวเอง ต้องอาศัยมาตรา ๒๕๘ หรือมาตรา ๒๕๙ คือ ผู้กระทำผิดต้องทำปลอมตั๋วโดยสารขึ้นเองหรือรู้ว่าตั๋วนั้นปลอมแปลง แต่พยานโจทก์ไม่ได้ความว่าจำเลยปลอมตั๋วหรือรู้ว่าตั๋วปลอม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้นำตั๋วค่าธรรมเนียมรถเร็วที่จำเลยขายแล้วในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๐๒ ซึ่งถูกขูดลบถอนแก้เครื่องหมายแสดงว่าใช้ไม่ได้แล้ว เพื่อให้ใช้ได้อีกมาขายให้แก่นายบรรจง จำเลยได้เบียดบังเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยจำหน่ายตามหน้าที่เป็นของจำเลย เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต เสียหายแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเลยจะเถียงว่าการกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตไม่ได้ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังที่พระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ส. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๘ บัญญัติไว้ จำเลยกระทำผิดต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นของรัฐบาล และเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติที่กล่าวมานั้น โดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติที่กล่าวมานั้น โดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตรา ๑๔๗, ๑๕๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้นแล้ว ข้อที่จำเลยว่าไม่มีความผิดตามมาตรา ๒๖๐ นั้น เห็นว่า การกระทำของจำเลยต้องตามบทบัญญัติมาตรานี้ชัดแจ้ง และข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยทุจริต รู้ว่าตั๋วปลอมแปลงแก้ไข
จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรานี้ พิพากษายืน

Share