คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4952/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์มิได้บรรยายข้อเท็จจริงโต้แย้งคำพิพากษาศาลฎีกามาในฎีกาเลยว่า ข้อเท็จจริงอย่างไรที่ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบ ฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 193ประกอบด้วยมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2532 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยได้ใช้ไม้เป็นอาวุธตีนายวิชัย พลเดช ผู้เสียหายแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายอีก 1 นัด โดยเจตนาฆ่าแต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 12 ปี คำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาต่อมาว่า ข้อเท็จจริงที่จำเลยโต้แย้งว่าเป็นการป้องกันนั้นก็ไม่เป็นที่กระจ่างชัดตามคำกล่าวอ้างของจำเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีข้อเท็จจริงเช่นนั้นจริง คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นชอบด้วยเหตุผล อันเป็นการฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบนั้น เห็นว่า โจทก์มิได้บรรยายข้อเท็จจริงโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาในฎีกาเลยว่าข้อเท็จจริงอย่างไรที่ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 ประกอบด้วยมาตรา 69 ให้จำคุก 2 ปี ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี

Share