คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีซึ่งศาลแขวงได้พิพากษาจนคดีถึงที่สุดให้ยกฟ้องเพราะศาลแขวงไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาได้นั้น โจทก์มีสิทธิที่จะนำคดีนั้นมาฟ้องต่อศาลซึ่งมีอำนาจใหม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการและฉ้อโกงขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ และว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้อีกเพราะอัยการศาลแขวงพระนครใต้ได้ฟ้องจำเลยกับพวกเป็นจำเลยต่อศาลแขวงพระนครใต้ตามคดีแดงที่ 1883/2492 ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว

ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เดิมอัยการเคยเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรวม 3 คน กระทำผิดอย่างเดียวกับคดีนี้ คดีนั้นศาลชั้นต้นเห็นว่าศาลแขวงไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษา จึงพิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขึ้นใหม่ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลแขวงพิพากษาในคดีก่อน ไม่ใช่พิพากษาในความผิดที่ได้ฟ้องเป็นแต่ศาลแขวงพิพากษาว่า โจทก์จะนำคดีนั้นมาฟ้องต่อศาลแขวงไม่ได้เท่านั้น สิทธิของโจทก์ยังมีที่จะฟ้องคดีนี้ได้ ไม่ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) พิพากษายืน

Share