แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม กฎหมายอาญา มาตรา254 จำคุก 2 ปีศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงไม่พอฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดทั้งสองฐานพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์เช่นนี้โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์) ต่อไปไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายพวกเจ้าทรัพย์บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าจำเลยได้ปล้นทรัพย์ คงพิพากษาจำคุกจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามกฎหมายอาญา มาตรา 254 สองปี
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยไม่พอฟังว่าจำเลยได้ปล้นหรือทำร้ายร่างกาย พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์เช่นนี้ เมื่อข้อหาฐานปล้นทรัพย์ศาลล่างได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ให้ยกฎีกาโจทก์