คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4924/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด และตามข้อบังคับของบริษัทกำหนดให้กรรมการซึ่ง ลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทได้คือ น. หรือป.ลงลายมือชื่อร่วมกับล. หรือช. รวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท แต่ตามอุทธรณ์ของจำเลย กรรมการที่ลงลายมือชื่อ ในช่องผู้อุทธรณ์คือ น.และป. และประทับสำคัญของบริษัท ซึ่งไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัท จึงไม่มี อำนาจกระทำการผูกพันจำเลยได้ อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 2,145,314.88 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ ต่อมาวันที่19 มิถุนายน 2539 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านคดีอยู่ระหว่างศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอถอนตัว ศาลชั้นต้นอนุญาต ครั้นวันที่ 27 กันยายน 2539นายนนทศักดิ์ เนาวลัย และนายประสงค์ สุวัฒน์ธนชัย ยื่นคำร้องว่าจำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีกรรมการคือนายนนทศักดิ์ นายประสงค์ นายไล ชิง ชวน นายลิม เชง กวนนายยัน เค ฮวดและนายชู เพ็ง เมียง จำนวนหรือชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้คือนายนนทศักดิ์หรือนายประสงค์ลงลายมือชื่อร่วมกับนายไลหรือนายชู รวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท แต่นายไล นายลิม นายยัน และนายชู ไม่ยอมต่อสู้คดีและนายไลหรือนายชู ไม่ยอมลงลายมือชื่อร่วมกับนายนนทศักดิ์หรือนายประสงค์ตามข้อบังคับของบริษัทแต่งทนายความต่อสู้คดีทำให้จำเลยเสียหายจึงขออนุญาตให้นายนนทศักดิ์และนายประสงค์ลงลายมือชื่อร่วมกันประทับตราสำคัญของบริษัท เป็นผู้แทนเฉพาะคราวของจำเลย แต่งตั้งทนายความดำเนินคดีแทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้น ต่อมาวันที่ 6 มีนาคม 2540ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยไม่ทำใบแต่งทนายความลงลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการผูกพันจำเลยมาให้ถูกต้องตามคำสั่งศาลมีพฤติการณ์ประวิงคดี จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีอีก และถือว่าจำเลยทิ้งคำร้องขอให้พิจารณาใหม่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความจำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องที่ขออนุญาตให้นายนนทศักดิ์และนายประสงค์ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท กระทำการแทน จำเลยแต่งตั้งทนายความ และอุทธรณ์คำสั่งที่ว่าจำเลยทิ้งคำร้องขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลอุทธรณ์ของจำเลยลงลายมือชื่อโดยกรรมการผู้ไม่มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนนิติบุคคล ก็เหมือนไม่มีบุคคลลงลายมือชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์จึงไม่รับอุทธรณ์ คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยไม่นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดตามข้อบังคับของบริษัทกำหนดให้กรรมการซึ่งลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทได้คือนายนนทศักดิ์หรือนายประสงค์ ลงลายมือชื่อร่วมกับนายไล หรือนายชูรวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัทแต่ตามอุทธรณ์ของจำเลย กรรมการที่ลงลายมือชื่อในช่องผู้อุทธรณ์คือนายนนทศักดิ์และนายประสงค์และประทับสำคัญของบริษัทซึ่งไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัท จึงไม่มีอำนาจกระทำการผูกพันจำเลยได้ อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน

Share