คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 492/2470

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความรับผิดของผัวเมีย ภรรยาหลวงกู้หนี้ผัวต้องรับผิดชอบ กู้หนี้บทที่ 17 การชำระหนี้ต้องมีใบเสร็จหรือสลักหลัง สัญญาประกาศรัชกาลที่ 4 ประมวลแพ่ง ม. 326 – 327 กรณีก่อนประมวลแพ่งต้องใช้ กฎหมายเดิม ประมวลแพ่ง ม. 2

ย่อยาว

คดีนี้จำเลยที่ ๒ ฎีกาคัดค้านศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ใช้หนี้โจทก์แทนจำเลยที่ ๑ ซึ่งเปนภรรยาหลวงเปนจำนวนต้นเงิน ๕๘๐๐ บาท โดยกล่าวว่า
๑. ศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกคำพยานจำเลยขึ้นวินิจฉัยเลยว่ามิควรฟังประการใด ในข้อที่จำเลยที่ ๑ ว่าได้ใช้หนี้แทน โจทก์ไป ๓๐๐๐ บาท (ซึ่งควรจะหักออกจากจำนวนหนี้สิน)
๒. หนี้สินรายนี้จำเลยที่ ๒ ไม่รู้เห็นด้วยหาควรต้องรับผิดไม่
๓. แม้ต้องรับผิดก็ไม่ควรให้ถึงสินบริคณห์ของจำเลยที่ ๒ ตาม ประมวลแพ่งมาตรา ๓๗ – ๔๒ – ๔๓
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาของจำเลยในข้อ ๑ นั้น ปราศจากเหตุผลที่อ้างอิง เพราะจำเลยไม่มีใบเสร็จรับเงินหรือสลักหลังสัญญาแต่อย่างใดที่จะให้เห็นว่าได้ใช้หนี้รายนี้แล้วและที่จำเลยคัดค้านว่าไม่รู้เห็นในหนี้สินรายนี้หาควรต้องรับผิดด้วยไม่นั้น ย่อมเปนการเถียงฝืนกฎหมายลักษณกู้หนี้บทที่ ๑๗ ซึ่งมีความว่า ถึงเจ้าหนี้มิได้บอกให้รู้สามีก็ต้องคืนต้นสินให้ท่าน ส่วนข้อที่จำเลยยกประมวลแพ่งมาตรา ๓๗ – ๔๒ – ๔๓ ขึ้นพูดนั้น เห็นว่าเรื่องนี้เกิดก่อนใช้ประมวลต้องวินิจฉัยตามกฎหมายเดิมดังนี้ จึงตัดสินยืนตาม ศาลอุทธรณ์ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย

Share