แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อน และเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบจึงให้งดไต่สวนคำร้องดังกล่าวแล้วยกคำร้อง โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้โจทก์เลื่อนการไต่สวน แต่โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ แต่คดีนี้ไม่มีการสืบพยานโจทก์เลยแม้แต่ปากเดียว กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่ การดำเนินกระบวนพิจารณาของโจทก์จึงไม่ถูกต้อง
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์บกพร่องในเรื่องความสามารถไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ถึงวันนัดไต่สวน โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อน ให้งดสืบพยาน ยกคำร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่โจทก์อุทธรณ์และฎีกาขึ้นมานี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 17 เมษายน 2522 ขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของโจทก์ต่อศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อน และเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ จึงให้งดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาดังกล่าวแล้วและสั่งยกคำร้องการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้โจทก์เลื่อนการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ซึ่งมีปัญหาว่าควรจะให้เลื่อนหรือไม่ แต่โจทก์กลับไปยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ ซึ่งมีปัญหาว่าควรจะให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนหรือไม่ แต่คดีนี้ไม่มีการสืบพยานโจทก์เลยแม้แต่ปากเดียว กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ การดำเนินกระบวนพิจารณาของโจทก์จึงไม่ถูกต้อง ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2522 โดยอาศัยเหตุดังกล่าวข้างต้นนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน