คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ของสมาคมเรื่องการเลือกตั้งนายกและกรรมการของสมาคม ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีการประชุมใหญ่อีกที่ประชุมใหญ่ได้มีมติเลือกตั้งนายกและกรรมการของสมาคมใหม่นายกและกรรมการของสมาคมชุดที่ผู้ร้องขอให้ศาลเพิกถอนหมดสภาพไป จึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาอุทธรณ์ของผู้ร้องต่อไปศาลอุทธรณ์มีอำนาจมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยเฉพาะที่เกี่ยวกับวาระการเลือกตั้งนายกและกรรมการของสมาคม ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่า คดีไม่มีเหตุเพียงพอที่จะเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ ให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีการประชุมใหญ่ของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ที่ประชุมใหญ่ได้มีมติเลือกตั้งนายกและกรรมการของสมาคมชุดใหม่ ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยว่า การเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ตามคำร้องของผู้ร้องไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ร้องหรือสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยต่อไป มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาว่าศาลอุทธรณ์ชอบที่จะมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วคดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่สามัญของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 21/2520 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2520 เฉพาะที่เกี่ยวกับวาระการเลือกตั้งนายกและกรรมการสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เห็นได้ว่า ความประสงค์ตามคำร้องขอของผู้ร้องก็เพื่อให้นายกและกรรมการของสมาคมที่ได้รับเลือกตั้งตามมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 21/2520 พ้นตำแหน่ง เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีการประชุมใหญ่ของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2522 ที่ประชุมใหญ่ได้มีมติเลือกตั้งนายกและกรรมการของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยใหม่ นายกและกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งตามมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2520 หมดสภาพไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาอุทธรณ์ของผู้ร้องอีกต่อไป ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้ แม้ยังมีประเด็นที่โต้เถียงกันอยู่ว่าระเบียบว่าด้วยการประชุมใหญ่ของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2520 ข้อ 3 ขัดต่อข้อบังคับของสมาคมข้อ 29 วรรคสามหรือไม่ ซึ่งผู้ร้องอ้างว่า หากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้อาจจะระงับข้อโต้แย้งในการประชุมใหญ่ครั้งต่อไปได้แต่เห็นว่าหาใช่ประโยชน์ในคดีนี้ไม่ ทั้งไม่อาจระงับข้อโต้แย้งได้จริง เพราะคำพิพากษาคงผูกพันคู่ความในคดีนี้เท่านั้น ไม่ผูกพันบุคคลภายนอก และเมื่อศาลอุทธรณ์มีอำนาจมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความศาลอุทธรณ์ ก็ไม่ต้องมีคำวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีได้ จึงหาขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ประกอบด้วยมาตรา 246 ที่บัญญัติให้ศาลต้องตัดสินตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อดังที่ผู้ร้องฎีกาไม่”

พิพากษายืน

Share