คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4880-4881/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ที่ 1 ฟ้องว่าเครื่องหมายการค้าพิพาทเป็นของตนเองทั้งหมด แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางฟังว่า โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวร่วมกัน เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของร่วมในเครื่องหมายการค้าพิพาทได้ตาม พ.ร.บ จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 142 (2) ไม่ถือว่าเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น
เมื่อฟังว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาที่จะโอนเครื่องหมายการค้าคำขอเลขที่ 358909, 365222 และ 365223 และเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเป็นเครื่องหมายชุดกับเครื่องหมายการค้า คำขอเลขที่ 437187, 437188 และ 437189 จำเลยที่ 1 จึงต้องมีหน้าที่โอนเครื่องหมายการค้าส่วนที่เหลือด้วย ตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 50

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาพิพากษารวมกัน
โจทก์สำนวนแรกฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 30,000,000 บาท ให้จำเลยที่ 1 จัดการโอนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 358909 ทะเบียนเลขที่ ค.82475 คำขอเลขที่ 365222 ทะเบียนเลขที่ ค.112309 และคำขอเลขที่ 365223 ทะเบียนเลขที่ บ.8370 รวมทั้งเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 437189 (ที่ถูก 437187) ทะเบียนเลขที่ ค.139240 และคำขอเลขที่ 437189 ทะเบียนเลขที่ บ.13874 ให้เป็นสิทธิของโจทก์แต่ผู้เดียว ห้ามจำเลยทั้งสามยุ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 200,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 30,000,000 บาท และจากค่าเสียหายวันละ 200,000 บาท หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
โจทก์สำนวนหลังฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 72,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวพร้อมค่าเสียหายเดือนละ 6,000,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะเลิกใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามคำขอเลขที่ 3589099, 365222 และ 365223 และให้จำเลยที่ 4 เพิกถอนการจดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ 1 ที่ได้จดทะเบียนให้เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ ตามคำขอเลขที่ 358909, 365222 และ 365223 เสียจากทะเบียนเครื่องหมายการค้าร่วม
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ให้การและฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้อง และบังคับให้โจทก์จดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้าจำพวก 30, 31 และ 42 ตามคำขอเลขที่ 358909 ทะเบียนเลขที่ ค.82475 คำขอเลขที่ 365222 ทะเบียนเลขที่ ค.112309 และคำขอเลขที่ 365223 ทะเบียนเลขที่ บ.8370 รวมทั้งเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 437189 (ที่ถูก 437187) ทะเบียนเลขที่ ค.138695 คำขอเลขที่ 437188 ทะเบียนเลขที่ ค.139240 และคำขอเลขที่ 437189 ทะเบียนเลขที่ ป.13874 ให้เป็นสิทธิของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียว ห้ามโจทก์ยุ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าดังกล่าว หากบังคับไม่ได้ ให้โจทก์ยอมให้จำเลยที่ 1 มีสิทธิผลิตและจำหน่ายสินค้าตามคำขอเลขที่ 358909, 365222 และ 365223 ในประเทศไทยแต่ผู้เดียว ห้ามโจทก์ยุ่งเกี่ยวกับสิทธิในการผลิตและจำหน่ายสินค้าดังกล่าว และให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยทั้งสามวันละ 1,000,000 บาท คิดเป็นเดือนละ 30,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนวันละ 1,000,000 บาท คิดเป็นเดือนละ 30,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 4 ให้การขอให้ยกฟ้อง
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้เรียกโจทก์สำนวนแรกซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ในสำนวนหลังเป็นโจทก์ที่ 1 ให้เรียกจำเลยที่ 2 ในสำนวนหลังเป็นโจทก์ที่ 2 ให้เรียกจำเลยที่ 3 ในสำนวนหลังเป็นโจทก์ที่ 3 ให้เรียกจำเลยที่ 4 ในสำนวนหลังเป็นโจทก์ที่ 4 ให้เรียกจำเลยที่ 1 ในสำนวนแรกซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนหลังเป็นจำเลยที่ 1 ให้เรียกจำเลยที่ 2 ในสำนวนแรกเป็นจำเลยที่ 2 และให้เรียกจำเลยที่ 3 ในสำนวนแรกเป็นจำเลยที่ 3
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 โอนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 437189 (ที่ถูก 437187) ทะเบียนเลขที่ ค.138695 คำขอเลขที่ 437188 ทะเบียนเลขที่ ค.139240 และคำขอเลขที่ 437189 ทะเบียนเลขที่ บ.13874 ให้โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินการให้ถือเอาคำพิพากษานี้แทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรเมนียมแทนโจทก์ทั้งสี่ โดยกำหนดค่าทนายความให้โจทก์ทั้งสี่คนละ 50,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามมีว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของร่วมในเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 358909, 365222 และ 365223 ชอบหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ที่ 1 ฟ้องว่า เครื่องหมายการค้าพิพาทเป็นของตนเองทั้งหมด แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางฟังว่าโจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 ร่วมกันเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางย่อมพิพากษาให้โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของร่วมในเครื่องหมายการค้าพิพาทได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (2) และไม่ถือว่าเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นแต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามประการต่อมามีว่า โจทก์ที่ 4 โต้แย้งสิทธิของจำเลยที่ 1 หรือไม่ และโจทก์ที่ 4 ต้องดำเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทอย่างไร เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังว่า บันทึกข้อตกลงมีผลใช้บังคับได้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คำขอเลขที่ 358909, 365222 และ 365223 จึงกระทำโดยถูกต้อง การที่โจทก์ที่ 4 จดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้าตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของจำเลยที่ 1 กรณีไม่จำต้องเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้น และเมื่อพิจารณาบันทึกข้อตกลงแล้ว แสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาที่จะให้มีการโอนเครื่องหมายการค้าจริงประกอบกับเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเป็นเครื่องหมายชุดกับเครื่องหมายการค้า คำขอเลขที่ 437187, 437188 และ 437189 จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ต้องโอนเครื่องหมายการค้าส่วนที่เหลือด้วย ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 50 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามาจึงชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share