คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเมาสุราโกรธผู้เสียหายเพราะถูกผู้เสียหายทำร้าย คิดจะฆ่าผู้เสียหายในทันทีทันใดที่ถูกทำร้าย แล้วเดินกลับไปเอามีดที่บ้านจำเลยซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเพียงประมาณ 40 เมตร โดยมิได้หยุดพัก มาแทงผู้เสียหายด้วยความโกรธที่มีอยู่เดิม จำเลยใช้มีดแทงทำร้ายผู้เสียหายหลังจากถูกผู้เสียหายทำร้ายไม่นาน ไม่พอฟังว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33,80, 91, 288, 289, 371
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 289(4) ประกอบมาตรา 80, 52 ลงโทษตามมาตรา 371 ปรับ 100 บาท ตามมาตรา 289(4), 80 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53คงจำคุกจำเลยไว้ 25 ปี และปรับ 50 บาท ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน และขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 ให้จำคุก 10 ปีจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี ให้ยกฟ้องความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเมาสุราโกรธผู้เสียหายเพราะถูกผู้เสียหายทำร้ายคิดจะฆ่าผู้เสียหายในทันทีทันใดที่ถูกทำร้ายนั้นเอง แล้วเดินกลับไปเอามีดที่บ้านจำเลยซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุเพียงประมาณ 40 เมตร เท่านั้น โดยมิได้หยุดพักมาแทงผู้เสียหายด้วยความโกรธที่มีอยู่เดิม แสดงว่าจำเลยใช้มีดแทงทำร้ายผู้เสียหายหลังจากถูกผู้เสียหายทำร้ายไม่นาน ที่ผู้เสียหายว่าจำเลยเอามีดมาแทงผู้เสียหายหลังจากผู้เสียหายผลักจำเลยแล้วประมาณครึ่งชั่วโมงเป็นการกะประมาณเอาและขณะนั้นผู้เสียหายก็ดื่มสุราด้วย การกะประมาณเวลาจึงอาจผิดพลาดได้ง่าย ข้อเท็จจริงจึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พิพากษายืน.

Share