คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4824/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของตาย มีฐานะทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าจ้างค้างจ่ายซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายได้โดยไม่จำต้องให้ศาลมีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกเสียก่อน ค่าจ้างค้างจ่ายของผู้ตายเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาท และทายาททุกคนเป็นเจ้าของรวมในกองมรดกที่ยังมิได้แบ่ง ทายาทแต่ละคนจึงอาจใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์รวมครอบไปถึงกองมรดกทั้งหมดได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 298 โจทก์แต่ผู้เดียวมีอำนาจฟ้องเรียกค่าจ้างค้างจ่ายของเจ้ามรดก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายผู้ตายเคยเป็นลูกจ้างประจำของจำเลย จำเลยค้างจ่ายค่าจ้างแก่ผู้ตาย หลังจากผู้ตายถึงแก่ความตายจำเลยไม่ยอมชำระค่าจ้างที่ค้างจ่ายให้โจทก์ซึ่งเป็นทายาท ขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยชำระค่าจ้างค้างจ่ายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ค่าจ้างที่โจทก์อ้างว่าจำเลยค้างชำระแก่ผู้ตายเป็นมรดกของผู้ตาย ทายานคนอื่นย่อมมีสิทธิได้รับด้วยตามส่วน โจทก์ไม่ใช่ผู้จัดการมรดก ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าจ้างค้างจ่ายพร้อมด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัด
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าผู้ที่ศาลมีคำสั่งให้เป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้นที่จะมีอำนาจฟ้องคดีนี้ โจทก์เป็นเพียงทายาทไม่มีอำนาจฟ้องนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ปัญหาข้อนี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอุดมผู้ตาย มีฐานะเป็นทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าจ้างค้างจ่ายซึ่งเป็นมรดกของนายอุดมผู้ตายจากจำเลยได้ โดยไม่จำต้องให้ศาลมีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกเสียก่อนดังข้ออุทธรณ์ของจำเลย ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่านายอุดมผู้ตายอาจมีทายาทอื่นซึ่งมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกด้วยนั้น เห็นว่า ค่าจ้างค้างจ่ายของนายอุดมผู้ตายเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาท และทายาททุกคนเป็นเจ้าของรวมในกองมรดกที่ยังมิได้แบ่ง ทายาทแต่ละคนจึงอาจใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์รวมครอบไปถึงกองมรดกทั้งหมดได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 298 ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาว่าโจทก์แต่ผู้เดียวมีอำนาจฟ้องคดีนี้จึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share