คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4821/2548

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ฎีกาของจำเลยที่โต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลออกไปอีกเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์โดยเฉพาะต่อเนื่องกับคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ยกอุทธรณ์ของจำเลยที่ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาซึ่งถึงที่สุดไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจำนวน 5,680,156.83 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 29 กันยายน 2541 เป็นต้นไปจนถึงวันฟ้อง และดอกเบี้ยอัตราเอ็มอาร์อาร์ บวก 2.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หักทอนด้วยเงินที่จำเลยโอนชำระหนี้โจทก์รวม 2 ครั้ง เป็นเงิน 19.79 บาท และให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้จำนวน 1,619,951.80 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 1,392,038.36 บาท นับแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 16124, 16123, 3565 ที่ดินโฉนดเลขที่ 17316 ที่ดินโฉนดเลขที่ 50628 ที่ดินโฉนดเลขที่ 31667 พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ หากไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยบังคับชำระหนี้แก่โจทก์จนครบกับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลภายใน 15 วัน จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง หากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 10 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมศาลออกไปอีก 30 วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์และคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการชำระเงินออกไปอีก 30 วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง อันเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นใช้อำนาจทั่วไปที่เห็นสมควรสั่งได้ จำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้นได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการชำระเงินดังกล่าว ซึ่งย่อมมีสิทธิกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ตามคำร้องจำเลยขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมอ้างเพียงว่าค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนที่สูงมากจำเลยยังรวบรวมเงินค่าธรรมเนียมศาลได้ไม่ครบถ้วน กำลังอยู่ในระหว่างขวนขวายหาเงินยังถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาลออกไปอีกเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์โดยเฉพาะต่อเนื่องงกับคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ยกอุทธรณ์ของจำเลยที่ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาซึ่งถึงที่สุดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย”
พิพากษายกฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากนี้ให้เป็นพับ

Share