คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4815/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ออกจากบ้านที่ปลูกสร้างและอยู่กินกับจำเลยเพราะต้องการพาบิดาซึ่งเป็นโรคหัวใจไปให้พ้นจากบิดาจำเลยซึ่งชอบดื่มสุราแล้วส่งเสียงดังโจทก์และจำเลยเคยตกลงจะไปจดทะเบียนหย่าขาดจากกันแต่หย่าไม่ได้เพราะโจทก์ไม่มีเงินชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรแก่จำเลยพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์และจำเลย สมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาและการแยกกันอยู่ดังกล่าวเป็นเวลานับถึงวันฟ้องเกินสามปีแล้วโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(4/2) การที่จำเลยจะ เรียกค่าเลี้ยงชีพได้จะต้องปรากฎว่าเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของโจทก์ฝ่ายเดียวดังนี้เมื่อฟังได้ว่าเหตุแห่งการหย่าเป็นเพราะโจทก์และจำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปีจำเลยจึงเรียกค่าเลี้ยงชีพจากโจทก์มิได้

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ จำเลย เป็น สามี ภริยา กัน โดยชอบ ด้วย กฎหมายต่อมา โจทก์ และ จำเลย มี ปัญหา โต้เถียง กัน อย่าง รุนแรง ไม่สามารถที่ จะ ตกลง อยู่ ร่วมกัน ได้ อย่าง ปกติ สุข จึง แยก กัน อยู่ ตั้งแต่ นั้นเป็นต้น มา จน ถึง บัดนี้ เป็น เวลา 20 ปี โจทก์ ไม่ประสงค์ จะ อยู่กิน ฉันสามี ภริยา กับ จำเลย อีก ต่อไป ขอให้ พิพากษา ให้ โจทก์ และ จำเลยหย่าขาด จาก กัน โดย ให้ จำเลย ไป จดทะเบียน หย่า กับ โจทก์
จำเลย ให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า หลังจาก จดทะเบียนสมรส กัน แล้วโจทก์ และ จำเลย พัก อาศัย อยู่ ที่ บ้าน บิดา มารดา โจทก์ ต่อมา จึง ย้ายไป อยู่ ที่ บ้าน มารดา จำเลย เมื่อ 7 ถึง 8 ปี ผ่าน มา จำเลย ปลูก บ้านเลขที่ 489 โจทก์ จำเลย และ บุตร ทั้ง 5 ย้าย มา อยู่ ที่ บ้าน หลัง ใหม่จน กระทั่ง ประมาณ 4 ถึง 5 ปี มา นี้ โจทก์ ประพฤติ มิชอบ ให้การอุปการะ เลี้ยงดู หญิง อื่น ฉัน ภริยา แต่ โจทก์ ก็ ยัง ไป มา หา สู่ จำเลยและ ให้ ความ อุปการะ เลี้ยงดู จำเลย เรื่อย มา จน กระทั่ง ก่อน ฟ้องคดี นี้โจทก์ ไม่ได้ ส่ง เสีย เลี้ยงดู จำเลย ทำให้ จำเลย และ ครอบครัว ได้รับความ เดือดร้อน มาก เหตุ ใน การ หย่า มิใช่ ความผิด ของ จำเลยเป็น ความผิด ของ โจทก์ แต่ ผู้เดียว จำเลย มี โรค ประจำตัว ข้อเท้า เสื่อมไม่ได้ ประกอบ อาชีพ และ โจทก์ มี รายได้ สูง มาก ขอให้ ยกฟ้อง โจทก์และ ให้ โจทก์ จ่าย ค่า เลี้ยงชีพ แก่ จำเลย เดือน ละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้อง แย้ง เป็นต้น ไป
โจทก์ ให้การ แก้ฟ้อง แย้ง ว่า โจทก์ และ จำเลย โต้เถียง กัน เรื่อย มาโจทก์ และ บิดา จึง ย้าย ไป อยู่ ที่ บ้าน ของ โจทก์ ที่ ตำบล บางด้วน อำเภอ เมือง สมุทรปราการ และ แม้ โจทก์ ไม่ได้ อยู่กิน กับ จำเลย แต่ โจทก์ได้ ส่ง เสีย เลี้ยงดู จำเลย และ ครอบครัว เรื่อย มา ขอให้ ยกฟ้อง แย้ง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ โจทก์ จำเลย หย่า กัน ให้ยก ฟ้องแย้ง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ โจทก์ จ่าย ค่า เลี้ยงชีพให้ แก่ จำเลย เดือน ละ 5,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง แย้ง เป็นต้น ไปนอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “พิเคราะห์ แล้ว ข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า โจทก์และ จำเลย จดทะเบียนสมรส เมื่อ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2512 อยู่กิน กันที่ บ้าน เลขที่ 19 หมู่ ที่ 6 ตำบล บางด้วน อำเภอ เมือง สมุทรปราการ จังหวัด สมุทรปราการ ต่อมา โจทก์ และ จำเลย ย้าย ไป อยู่ ตำบล บางปูใหม่ อำเภอ เมือง สมุทรปราการ จังหวัด สมุทรปราการ ประมาณ ปี 2516ถึง 2519 โจทก์ ออกจาก บ้าน กลับ ไป อยู่ ที่ บ้าน เลขที่ 19 หมู่ ที่ 6ตำบล บางด้วน อำเภอ เมือง สมุทรปราการ จังหวัด สมุทรปราการ เนื่องจาก ทะเลาะวิวาท กับ จำเลย ต่อมา ประมาณ ปี 2520 โจทก์ และ จำเลยตกลง ไป จดทะเบียน หย่า ที่ อำเภอ แต่ เนื่องจาก โจทก์ ไม่มี เงิน ชำระ ค่าอุปการะ เลี้ยงดู บุตร คน ละ 25,000 บาท แก่ จำเลย ตาม ที่ ทาง อำเภอไกล่เกลี่ย จึง ไม่ได้ จดทะเบียน หย่า คดี มี ปัญหา ตาม ฎีกา ของ โจทก์ประการ แรก ว่า โจทก์ และ จำเลย สมัครใจ แยก กัน อยู่ เพราะ เหตุ ที่ ไม่อาจ อยู่ร่วมกัน ฉัน สามี ภริยา ได้ โดยปกติสุข ตลอดมา เกิน สาม ปี หรือไม่ โจทก์มี ตัว โจทก์ เป็น พยาน เบิกความ ว่า โจทก์ มอบ เงิน ให้ จำเลย นำ ไป ปลูกสร้างบ้าน ใน ที่ดิน บิดา จำเลย ที่ ตำบล บางปูใหม่ เมื่อ ปลูกสร้าง เสร็จ โจทก์ จำเลย และ บิดา โจทก์ เข้า พัก อาศัย บ้าน ที่ ปลูกสร้าง ใหม่ นี้ อยู่ ติดกับบ้าน บิดา จำเลย บิดา จำเลย ชอบ ดื่ม สุรา เมา อาละวาด โจทก์พยายาม ตักเตือน และ ห้ามปราม แต่ บิดา จำเลย ไม่ เชื่อฟัง ใน ที่สุดโจทก์ จึง นำ บิดา โจทก์ ซึ่ง เป็น โรค หัว ใจ กลับ ไป อยู่ บ้าน เดิม ที่ ตำบล บางด้วน ตั้งแต่ ปี 2516 จำเลย ไม่ได้ ตาม ไป ด้วย ส่วน จำเลย มี ตัว จำเลย เป็น พยาน เบิกความ ว่า เมื่อ ประมาณ ปี 2519 โจทก์ เริ่ม ติดพัน หญิงอื่น และ ไม่ ค่อย กลับ บ้าน ใน ที่สุด โจทก์ ออกจาก บ้าน ที่อยู่ กิน กับ จำเลยไป และ จำเลย ตอบ ทนายโจทก์ ถาม ค้าน ว่า บิดา โจทก์ ช่วย ออก เงิน ปลูกสร้างบ้าน ใหม่ และ มา อยู่ ด้วย ไม่ถึง ปี ก็ กลับ ไป อยู่ บ้าน เดิม ที่ ตำบล บางด้วน บิดา จำเลย ดื่ม สุรา เป็น ประจำ แล้ว ชอบ ส่ง เสียงดัง แต่ ไม่เคย มี เรื่องกับ ใคร เมื่อ จำเลย กับ โจทก์ ทะเลาะวิวาท กัน บ่อยครั้ง จึง ตกลง ที่ จะ ไปจดทะเบียน หย่า ศาลฎีกา เห็นว่า พยาน จำเลย เจือสม พยานโจทก์ ว่าโจทก์ ออกจาก บ้าน ที่ ปลูกสร้าง และ อยู่กิน กับ จำเลย เพราะ ต้องการ พา บิดาซึ่ง เป็น โรค หัว ใจ ไป ให้ พ้น จาก บิดา จำเลย ซึ่ง ชอบ ดื่ม สุรา แล้วส่ง เสียงดัง ได้ความ ต่อไป ว่า โจทก์ และ จำเลย ตกลง จะ ไป จดทะเบียน หย่าขาด จาก กัน แต่ หย่า ไม่ได้ เพราะ โจทก์ ไม่มี เงิน ชำระ ค่า อุปการะ เลี้ยงดูบุตร แก่ จำเลย พฤติการณ์ ดังกล่าว น่าเชื่อ ว่า โจทก์ และ จำเลย สมัครใจแยก กัน อยู่ เพราะ เหตุ ที่ ไม่อาจ อยู่ ร่วมกัน ฉัน สามี ภริยา ได้ โดยปกติสุขตลอดมา และ การ แยก กัน อยู่ ดังกล่าว เป็น เวลา นับ ถึง วันฟ้อง เกิน สาม ปี แล้วโจทก์ จึง มีสิทธิ ฟ้อง หย่า ได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(4/2) ฎีกา ข้อ นี้ ของ โจทก์ ฟังขึ้น
คดี มี ปัญหา ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ประการ สุดท้าย ว่า จำเลย สมควรได้รับ ค่า เลี้ยงชีพ จาก โจทก์ หรือไม่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1526 บัญญัติ ว่า ใน คดี หย่า ถ้า เหตุ แห่ง การ หย่า เป็น ความผิดของ คู่สมรส ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง แต่ ฝ่ายเดียว และ การ หย่า นั้น จะ ทำให้ อีกฝ่ายหนึ่ง ยากจน ลง เพราะ ไม่มี รายได้ พอ จาก ทรัพย์สิน หรือ จาก การงานตาม ที่ เคย ทำ อยู่ ระหว่าง สมรส อีกฝ่าย หนึ่ง นั้น จะ ขอให้ ฝ่าย ที่ ต้องรับผิด จ่าย ค่า เลี้ยงชีพ ให้ ได้ ศาลฎีกา เห็นว่า จำเลย จะ เรียกค่า เลี้ยงชีพ ได้ จะ ต้อง ปรากฎ ว่า เหตุ แห่ง การ หย่า เป็น ความผิด ของ โจทก์แต่ ฝ่ายเดียว ดังนี้ เมื่อ ฟังได้ ว่า เหตุ แห่ง การ หย่า เป็น เพราะโจทก์ และ จำเลย สมัครใจ แยก กัน อยู่ เพราะ เหตุ ที่ ไม่อาจ อยู่ ร่วมกันฉัน สามี ภริยา ได้ โดยปกติสุข ตลอดมา เกิน สาม ปี จำเลย จึง เรียกค่า เลี้ยงชีพ จาก โจทก์ มิได้ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษา มา นั้นศาลฎีกา ไม่เห็น พ้อง ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น ”
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ บังคับคดี ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น

Share