แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยได้แก้เครื่องชั่งถึง 2 เครื่อง และใช้เครื่องชั่งชั่งสินค้าเอาเปรียบประชาชนทั่ว ๆ ไป ทั้งที่กฎหมายบัญญัติอัตราโทษไว้สูงสำหรับความผิดประเภทนี้จำเลยหาเกรงกลัวไม่ เพื่อให้บังเกิดผลในการปราบปรามและมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นต่อไป จึงชอบที่จะลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษ.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดพ.ศ. 2466 มาตรา 32 พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2526 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 32 พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด (ฉบับที่4) พ.ศ. 2526 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 32 ซึ่งเป็นบทหนัก เรียงกระทงลงโทษ ฐานแก้ไขเครื่องชั่งและฐานใช้เครื่องชั่ง รวมสองกระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน ปรับกระทงละ 2,000 บาท รวมจำคุก 3 ปี ปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพโดยดี ปรานีลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 2 ปี ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เหตุที่กฎหมายบัญญัติอัตราโทษไว้สูงเพราะถือเป็นความผิดร้ายแรงในเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ และเป็นการเอาเปรียบต่อกสิกรหรือประชาชนที่ยากจนในประเทศ ไม่ควรรอการลงโทษ เมื่อลงโทษจำคุกจำเลยแล้วเห็นควรกำหนดโทษจำเลยใหม่พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานแก้ไขเครื่องชั่ง จำคุก 1 ปี ฐานใช้เครื่องชั่ง จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 9 เดือน นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกา อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าสมควรรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้จำเลยได้แก้ไขเครื่องชั่งถึง 2 เครื่อง และใช้เครื่องชั่งชั่งสินค้าเอาเปรียบประชาชนทั่วๆ ไป ทั้งที่กฎหมายบัญญัติอัตราโทษไว้สูงสำหรับความผิดประเภทนี้ จำเลยหาเกรงกลัวไม่ เพื่อให้บังเกิดผลในการปราบปรามและมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.