คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกู้เงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น ในส่วนดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะทั้งหมด แต่ต้นเงินไม่เป็นโมฆะ ผู้ให้กู้ฟ้องเรียกต้นเงินได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้หนี้กองมฤดกในฐานะเป็นผู้รับมฤดกให้โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ และตัดฟ้องว่า สัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นโมฆะ เพราะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมาย
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราจริงไม่ชอบด้วย ป.ม.แพ่งฯ ม.๒๕๔ และเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.๒๔๗๕ สัญญากู้รายนี้จึงเป็นโมฆะ เพราะมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๑๓ พิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้นไม่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะไปทั้งสิ้น เพราะใน ป.ม.แพ่ง ฯ ม.๖๕๔ ได้บัญญัติไว้ว่า “ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้นก็ให้ลดลงเป็นร้อยละ ๑๕ ต่อไป” จึงเป็นความประสงค์ของกฎหมายส่วนแพ่งให้เรียกดอกเบี้ยส่วนที่ไม่เกินอัตราไดด้ ทั้งในวิ.อาญา ม.๔๗ ก็ให้ถือว่า “คำพิพากษาส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลทางแพ่ง” จึงพิพากษากลับให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี แต่มีผู้พิพากษานายหนึ่งมีความเห็นแย้งตามข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ใน ป.ม.แพ่ง ฯ ม.๖๕๔ ได้บัญญัติให้ลดจำนวนดอกเบี้ยที่กำหนดกันไว้เกินอัตราในกฎหมายลงได้ก็ดีแต่ได้มี พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นกฎหมายออกใช้ภายหลังบัญญัติให้การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นความผิดทางอาญา การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราจึงเป็นโมฆะ ตาม ป.ม.แพ่งฯ ม.๑๑๓ ส่วนสัญญากู้ในคดีนี้นั้น ฟังสันนิษฐานได้ว่า คู่กรณีเจตนาจะแยกการให้กู้ต้นเงิน และการเรียกดอกเบี้ยยอดต่างหากจากกัน ฉะนั้นต้นเงินจึงไม่ตกเป็นโมฆะไปด้วยตาม ป.ม.แพ่งมาตรา ๑๓๕ ตอนท้าย จริงอยู่ความในมาตรา ๓ แห่ง พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ๒๔๗๕ มีว่า “ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” ซึ่งอาจเข้าใจไปว่ากฎหมายห้ามการยืมเสียทีเดียวก็ดี แต่คำว่าโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและความในพระราชปรารภว่า สมควรจะป้องกันมิให้ราษฎรเรียกดอกเบี้ยแพงกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติมีแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราเท่านั้น ไม่ใช่ห้ามการยืมเสียทีเดียว จึงไม่ทำให้สัญญาส่วนต้นเงินตกเป็นโมฆะไปด้วย พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้ตนเงินให้โจทก์

Share