คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เขียนพินัยกรรม์เว้นช่องว่างไว้ แล้วกรอกลงภายหลัง แต่เป็นเวลาก่อนผู้ทำพินัยกรรม์และพะยานลงชื่อนั้น ไม่ต้องมีการลงลายมือชื่อกำกับตรงที่++ ลงนั้น ผู้มีสิทธิรับมฤดกลงชื่อเป็นพะยานในสัญญาเช่าที่ดิน ซึ่งตนมีสิทธิได้รับและผู้รับมฤดกคนอื่นทำสัญญาให้เช่าไปนั้น ไม่เป็นการสละมฤดกและไม่เป็นเหตุขัดขวางในการที่ตนจะยกอายุความ 1 ปีขึ้นต่อสู้

ย่อยาว

ได้ความว่า บิดาโจทก์จำเลยถึงแก่กรรม นานแล้วมารดาโจทก์ จำเลยจึงถึงแก่กรรมทรัพย์มฤดกของบิดานั้นมารดาปกครองมาฝ่ายเดียวมารดาได้ทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์มฤดกให้แก่ จำเลย ในพินัยกรรม์ยกที่ดินให้จำเลยนั้น ผู้เขียนเว้นจำนวนเนื้อที่ไร่แล้วใส่จำนวนลงภาพหลัง แต่เป็นเวลาก่อนที่ผู้ทำพินัยกรม์และพะยานลงชื่อ ส่วนที่ดินนั้นเมือมารดาถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์กับบุตรคนอื่นเป็นผู้ให้เช่าจำเลยได้ลงชื่อเป็นพะยานในสัญญาเช่านั้นด้วย บัดนี้โจทก์มาฟ้องเรียกมฤดก แล้อ้างว่าพินัยกรรม์ไม่สมบูรณ์จำเลยต่อสู้ว่าพินัยกรรม์สมบูรณ์และว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ฝ่ายโจทก์เถียงว่า จำเลยลงชื่อในสัญญาเช่าแล้ว ไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าพินัยกรรม์นั้นสมบูรณ์การกรอกเช่นนั้นไม่ใช่ความประสงค์ของมาตรา ๑๓๕๖ วรรค ๒ ที่จะให้มีลายมือชื่อกำกับ ส่วนการที่จำเลยลงลายมือชื่อในสัญญาเข่าไม่เป็นการสละสิทธิรับมฤดก เมื่อไม่มีการสละสิทธิรับมฤดกแล้วจำเลยก็ยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่างซึ่งให้ยกฟ้องโจทก์

Share