แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รถจักรยานยนต์ซึ่งจำเลยใช้ในการกระทำความผิดฐานแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรเป็นทรัพย์สินซึ่งใช้ในการกระทำความผิดที่ศาลสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33(1)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2538 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยทั้งสองได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันจำเลยที่ 1 ใช้รถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน สงขลา ฮ-2865จำเลยที่ 2 ใช้รถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน สงขลา ส-6168ร่วมกันขับแข่งกับพวกหลายคนซึ่งขับรถจักรยานยนต์อีกหลายคันไปตามถนนในลักษณะแข่งขันความเร็วกัน โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร จำเลยทั้งสองยังขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวโดยเร่งเครื่องยนต์ให้เกิดเสียงดังผิดปกติ เร่งความเร็วให้สูงเกินสมควร ขับคร่อมช่องเดินรถแซงปาดหน้ารถจักรยานยนต์คันอื่นในระยะกระชั้นชิด ซึ่งเป็นการขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และจำเลยทั้งสองขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4)(8), 134,157, 160, 160 ทวิ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2535 มาตรา 16, 27, 30, 31 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522มาตรา 42, 43, 64 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 74, 77, 83, 91พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบของกลาง และเรียกบิดามารดามาวางข้อกำหนดให้ระวังดูแลจำเลยทั้งสองมิได้ก่อเหตุร้ายกับกำหนดจำนวนเงินที่ต้องชำระเมื่อจำเลยทั้งสองก่อเหตุร้ายขึ้นอีก
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 42, 43, 64 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4)(8) (ที่ถูกคือ 43 (4)(6)(8)),134 (ที่ถูกคือ 134 วรรคหนึ่ง), 157, 160 (ที่ถูกคือ 160 วรรคสาม),160 ทวิ ขณะกระทำผิดจำเลยทั้งสองอายุ 15 ปีเศษ เมื่อได้คำนึงถึงอายุ อาชีพ สติปัญญาความประพฤติ การศึกษาอบรม สุขภาพ ทั้งสภาพแห่งความผิดแล้ว ลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 กึ่งหนึ่งแล้ว ลงโทษฐานขับรถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตปรับคนละ 400 บาท ฐานร่วมกันแข่งรถจักรยานยนต์ในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นบทหนักปรับคนละ 4,000 บาท รวมโทษปรับคนละ 4,400 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงปรับคนละ 2,200 บาท หากจำเลยคนใดไม่ชำระค่าปรับให้ส่งไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสงขลามีกำหนดคนละ 31 วัน สำหรับคำขอริบรถจักรยานยนต์ของกลางนั้นเห็นว่าในความผิดฐานแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจะเป็นความผิดเมื่อไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรเท่านั้น รถจักรยานยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้หรือใช้ในการกระทำผิด ไม่อาจริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 จึงให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่เจ้าของ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลางเสียด้วย นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดฐานแข่งรถในทางโดยมีได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรซึ่งศาลมีอำนาจสั่งให้ริบหรือไม่ เห็นว่าเมื่อการกระทำของจำเลยทั้งสองครบองค์ประกอบของความผิดตามกฎหมายแล้ว รถจักรยานยนต์ซึ่งจำเลยใช้ขับแข่งกันในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรย่อมเป็นทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้ใช้ในการกระทำผิดจึงอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งให้ริบได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) ส่วนการที่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรหรือไม่ เป็นเพียงทำให้การแข่งรถในทางเป็นความผิดหรือไม่เท่านั้น หาได้มีผลต่อการที่ศาลจะสั่งให้ริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวไม่
พิพากษายืน