คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4771/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เดินรถรับจ้างโดยสารในนามของจำเลยที่ 2 ตามวัตถุประสงค์ที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนไว้ จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถโดยสารของจำเลยที่ 2ไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการจะปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่าได้ให้จำเลยที่ 1 เช่ารถคันดังกล่าวไปแล้วหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ ๒ ในขณะปฏิบัติงานในทางการที่จ้างหรือตามคำสั่งของจำเลยที่ ๒ ได้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๒ ด้วยความประมาทชนท้ายรถยนต์ของโจทก์ซึ่งขับอยู่ข้างหน้า เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์เสียหาย โจทก์ทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายนั้นแล้ว แต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย จึงขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ให้การว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ได้เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ ๒ แต่เป็นผู้เช่ารถของจำเลยที่ ๒ ไปขับรับจ้างบรรทุกผู้โดยสาร จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องร่วมรับผิด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๒ ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายจำเลยที่ ๒ ในฐานะตัวการต้องร่วมรับผิดด้วย พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรร์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าการที่จำเลยที่ ๑ เดินรถรับจ้างโดยสารดังกล่าวกระทำในนามของจำเลยที่ ๒ ตามวัตถุประสงค์ที่จำเลยที่ ๒ ขอจดทะเบียนไว้จำเลยที่ ๑ จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๒ เมื่อจำเลยที่ ๑ ขับรถโดยสารของจำเลยที่ ๒ ไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นตัวการจะปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่าให้เช่ารถคันดังกล่าวไปแล้วหาได้ไม่
พิพากษายืน

Share