คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4746/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้กรมธรรม์ประกันภัยจะมีข้อความระบุว่า การประกันภัยไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์แต่ขาดต่ออายุเกินกว่า180 วันก็ตาม แต่ก็มีข้อสัญญาพิเศษระบุว่า “ภายใต้จำนวนเงินจำกัดความรับผิด บริษัทจะไม่ยกเอาความไม่สมบูรณ์แห่งกรมธรรม์หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกเพื่อปฏิเสธความรับผิด ฯลฯ แต่บริษัทไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายหรือตามกรมธรรม์นี้ต่อผู้เอาประกันภัยเพราะกรณีซึ่งผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอก ผู้เอาประกันภัยต้องใช้จำนวนเงินที่บริษัทได้จ่ายไปนั้นคืนให้บริษัททันที” ดังนั้นจำเลยร่วมจะยกเอาเหตุที่ผู้ขับขี่รถยนต์ที่เอาประกันภัยขาดต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์เกินกว่า 180 วันมาเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อปฏิเสธความรับผิดต่อความบาดเจ็บหรือมรณะของบุคคลภายนอกหาได้ไม่ ได้แต่ยกขึ้นว่ากล่าวเอากับผู้เอาประกันภัยเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 214,483 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 120,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไปใช้โดยพลการนอกทางการที่จ้าง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ เหตุละเมิดเกิดจากความประมาทและฝ่าฝืนกฎหมายของฝ่ายโจทก์เพียงฝ่ายเดียว ขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 2 ขอให้ศาลหมายเรียกบริษัทสินมั่นคงประกันภัย จำกัดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยร่วมให้การว่า ความรับผิดของจำเลยร่วมต่อโจทก์ทั้งสองหากจะมีก็ไม่เกินจำนวนคนละ 50,000 บาท แต่เหตุรถชนกันในคดีนี้จำเลยที่ 2 ไม่มีหน้าที่ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์เพราะขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ไม่ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปในฐานะลูกจ้าง และไม่ได้กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยร่วมจึงไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองด้วย และตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขยกเว้นความรับผิดของจำเลยร่วมอยู่ว่า ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ หรือเคยได้รับแต่ขาดต่ออายุเกินกว่า 180 วันปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ แต่จำเลยที่ 1 ขาดต่อใบอนุญาตขับรถยนต์เกิน 180 วัน ในเวลาเกิดอุบัติเหตุจำเลยร่วมจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองรวมเป็นเงิน 290,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับจากวันฟ้อง (วันที่ 29 ตุลาคม 2536) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์สำหรับค่าธรรมเนียมศาลที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถานั้น ให้จำเลยที่ 1 นำมาชำระต่อศาลในนามของโจทก์ ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วม

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 164,483 บาท และร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 2จำนวน 140,000 บาท โดยให้จำเลยร่วมร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ที่ 1และโจทก์ที่ 2 คนละ 50,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยร่วมฎีกาปัญหาข้อกฎหมายข้อเดียวว่า ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสองเพราะตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.13 และข้อ 2.13.6 เอกสารหมาย ล.2 ยกเว้นไว้ ปรากฏว่าคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท โจทก์ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังข้อเท็จจริงว่ากรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.13.6 กำหนดว่า การประกันภัยไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่เคยได้รับใบอนุญาตขับขี่ แต่ขาดต่ออายุเกินกว่า 180 วัน และจำเลยที่ 1 ขาดต่อใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เกิน 180 วัน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้กรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.2 จะมีข้อ 2.13.6 การยกเว้นทั่วไป ระบุว่า การประกันภัยตามข้อ 2.1ข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์แต่ขาดต่ออายุเกินกว่า 180 วัน ก็ตาม แต่ก็มีข้อ 2.14 ซึ่งเป็นข้อสัญญาพิเศษระบุว่า “ภายใต้จำนวนเงินจำกัดความรับผิดที่ระบุไว้ในตาราง บริษัทจะไม่ยกเอาความไม่สมบูรณ์แห่งกรมธรรม์หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือข้อ 2.13 หรือเงื่อนไขทั่วไป เว้นแต่ข้อ 1.2 เป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกเพื่อปฏิเสธความรับผิดตามข้อ 2.1 หรือข้อ 2.2 เมื่อบริษัทได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วแต่บริษัทไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายหรือตามกรมธรรม์นี้ต่อผู้เอาประกันภัยเพราะกรณีดังกล่าวข้างต้นนั้น ซึ่งผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอก ผู้เอาประกันภัยต้องใช้จำนวนเงินที่บริษัทได้จ่ายไปนั้นคืนให้บริษัททันที” ดังนั้น จำเลยร่วมจะยกเอาเหตุที่ผู้ขับขี่รถยนต์ที่เอาประกันภัยขาดต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์เกินกว่า 180 วัน มาเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อปฏิเสธความรับผิดต่อความบาดเจ็บหรือมรณะของบุคคลภายนอกตามข้อ 2.1 หาได้ไม่ ได้แต่ยกขึ้นว่ากล่าวเอากับผู้เอาประกันภัยเท่านั้นจำเลยร่วมจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ฎีกาของจำเลยร่วมฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share