แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ร้องเป็นผู้รับจำนองที่ดินของจำเลย ซึ่งโจทก์นำยึดไว้ในอีกคดีหนึ่งเพื่อขายทอดตลาด และผู้ร้องขอให้ขายที่ดินนั้นโดยวิธีปลดจำนองแล้วให้นำเงินที่ขายทอดตลาดได้มาชำระหนี้จำนองก่อน ย่อมเป็นคำฟ้องที่ขอให้บังคับจำนองโดยอาศัยบุริมสิทธิของเจ้าหนี้ผู้รับจำนองด้วยวิธีการเป็นพิเศษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 เป็นผลให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นโดยปลดจำนอง คำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามตาราง 1 ข้อ 1 ค. ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีขอรับเงินจากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ขอรับ ให้เสียค่าขึ้นศาลภายใน 7 วัน มิฉะนั้นไม่รับคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่ผู้ร้องฎีกาว่า คำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องของผู้ร้อง บรรยายโดยแจ้งชัดว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดมาขายทอดตลาด เป็นที่ดินซึ่งจำเลยนำมาจำนองไว้กับผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองขอให้ขายที่ดินดังกล่าวโดยวิธีปลดจำนอง และขอให้นำเงินที่ขายทอดตลาดได้มาชำระหนี้จำนองก่อน อันเป็นคำฟ้องที่ขอให้บังคับจำนองโดยอาศัยบุริมสิทธิของเจ้าหนี้ผู้รับจำนองด้วยวิธีการเป็นพิเศษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ทั้งนี้เมื่อขายทอดตลาดโดยปลดจำนองแล้วย่อมถือว่าหนี้จำนองได้ถูกบังคับเอาจากทรัพย์สินที่จำนองไปเสร็จสิ้น มีผลให้ผู้ซื้อที่ดินดังกล่าวจากการขายทอดตลาดของศาล ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นโดยปลดจำนอง คำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 289 จึงเป็นคดีที่คำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์นั้น อาจคำนวณเป็นราคาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ผู้ร้องจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามตาราง 1 ข้อ 1 ค.”
พิพากษายืน