คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4708/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาท ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วสั่งยกคำร้องของโจทก์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวไว้ จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาสั่งเพิกถอนคำสั่งจังหวัดสมุทรปราการที่ 114/2525 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยหรือให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหาย รวมเป็นเงิน 51,345 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 48,900 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยทั้งสามให้การต่อสู้ขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่าคดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาทศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว จึงยกคำร้องของโจทก์ดังกล่าวเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่มิชอบด้วยกฎหมายแม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ในข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยให้ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ในข้อนี้เป็นเรื่องโต้แย้งดุลพินิจของศาลชั้นต้นที่ไม่ทำการชี้สองสถานตามคำร้องของโจทก์ อันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ซึ่งโจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ในข้อนี้จึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share