คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยอ้างว่า ทนายจำเลยติดธุระส่วนตัว ไม่ได้จงใจเพิกเฉยไม่ดำเนินการส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ เป็นความผิดส่วนตัวของทนายความ จะเอาความผิดดังกล่าวมาเป็นเหตุว่าจำเลยทิ้งฟ้องไม่ได้นั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยมอบความไว้วางใจและตั้งใจให้ผู้ใดเป็นทนายความของตนแล้วทนายความก็เป็นคู่ความในคดี การกระทำการใด ๆ ของทนายความเกี่ยวกับคดีต้องถือว่าเป็นการกระทำของจำเลยเอง จำเลยจึงไม่อาจยกเหตุที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทนายความของตนมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้พ้นความรับผิดได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และให้จำเลยทั้งสองนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ภายใน15 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 15 วันนับแต่วันส่งไม่ได้ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม 2529 หัวหน้างานเดินหมายและประกาศได้รายงานต่อศาลชั้นต้นว่าพ้นกำหนด 15 วันที่ศาลสั่งให้ส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์แล้ว จำเลยหรือผู้แทนจำเลยไม่มานำส่งหมายศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อดำเนินการต่อไปศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองเพิกเฉยไม่ดำเนินการส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ให้จำหน่ายคดี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า เนื่องจากมารดาทนายจำเลยป่วย ทนายจำเลยต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและได้มอบให้เสมียนทนายตามเรื่อง เสมียนทนายหาสำนวนไม่พบจึงไม่อาจนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ได้ และการที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีเพราะเหตุส่วนตัวของทนายซึ่งจำเลยทั้งสองไม่รู้เรื่องด้วยจะเอาความผิดส่วนตัวดังกล่าวมาเป็นเหตุว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องหาได้ไม่นั้น เห็นว่า หากทนายจำเลยได้มอบให้เสมียนทนายตามเรื่องและเสมียนทนายหาสำนวนไม่พบจึงไม่อาจนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ได้ดังอ้าง ทนายจำเลยก็น่าจะแจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุแห่งการขัดข้องเช่นนั้นได้โดยไม่ชักช้า คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2529 และศาลสั่งรับอุทธรณ์ในวันนั้นโดยสั่งให้จำเลยทั้งสองนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน 15 วัน และหากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 15 วัน ซึ่งจำเลยทั้งสองจะต้องดำเนินการจัดส่งหมายภายในวันที่ 1 มีนาคม 2529 และหากมีการขัดข้องส่งหมายไม่ได้ก็ยังมีเวลาแถลงต่อศาลภายในวันที่ 16 มีนาคม 2529 แต่จำเลยทั้งสองกลับปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาจนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2529เจ้าพนักงานเดินหมายศาลจึงได้รายงานถึงการไม่ดำเนินการจัดการนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองดังกล่าว ดังนั้นที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าเสมียนทนายหาสำนวนไม่พบและทนายจำเลยติดธุระส่วนตัวไม่จงใจทิ้งฟ้องอุทธรณ์จึงฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าเป็นความผิดส่วนตัวของทนายความ จะเอาความผิดดังกล่าวมาเป็นเหตุว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องไม่ได้นั้น เห็นว่า เมื่อจำเลยทั้งสองมอบความไว้วางใจและตั้งให้ผู้ใดเป็นทนายความของตนแล้ว ทนายความก็เป็นคู่ความในคดี การกระทำการใดๆ ของทนายความเกี่ยวกับคดีก็ต้องถือว่าเป็นการกระทำของจำเลยทั้งสองเอง จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจยกเหตุที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทนายความของตนมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้พ้นความรับผิด ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฟ้องนั้นจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share