คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484โจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องให้ปรากฏด้วยว่าได้มีการคัดสำเนาพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่ง พระราชบัญญัติ นี้ไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ทำการกำนัน หรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องแล้วถ้าในฟ้องมิได้กล่าวไว้ทั้งตามท้องสำนวนก็ไม่ได้ความตามที่ พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้ แม้จำเลยรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยตัดฟันชักลาก ไม้หวงห้ามในป่าและออกจากป่า และจำเลยมีไม้ดังกล่าวแล้วซึ่งยังมิได้แปรรูปกับไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและไม่มีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 39, 69, 71, 73 และริบไม้

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้บัญญัติว่าพระราชกฤษฎีกาหรือประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้คัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องแต่โจทก์มิได้บรรยายความข้อนี้ไว้ และมิได้นำสืบ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ให้ยกฟ้องเสีย ไม้ของกลางริบ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ไม้ของกลางให้คืนจำเลย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติป่าไม้มาตรา 5 บัญญัติไว้ชัดว่าพระราชกฤษฎีกาหรือประกาศรัฐมนตรีซึ่ง กำหนดขึ้นตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ให้คัดสำเนาประกาศไว้ณ ที่ว่าการอำเภอ และที่ทำการกำนันหรือที่สาธารณสถานในท้องที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ก็เพื่อประสงค์ให้ประชาชนในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องได้ทราบประกาศนั้น แต่ตามฟ้องโจทก์มิได้กล่าวว่าได้มีการออกประกาศ ทั้งตามท้องสำนวนก็ไม่ได้ความตามที่พระราชบัญญัติได้กำหนดไว้ ศาลล่างพิพากษายกฟ้องชอบแล้วจึงพิพากษายืน

Share